ปภ.สรุปพื้นที่อุทกภัย 38 จังหวัด ปชช.เดือนร้อนแล้วกว่า 3 ล้านคน เสียชีวิต 34 คน
ล่าสุด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปรายงาน แจ้งว่าตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.จนถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ประสบภัยอุทกภัยรวมทั้งสิ้น 38 จังหวัด 269 อำเภอ 1,684 ตำบล มีประชาชนเดือดร้อน กว่า 3 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตรวม 34 คน
สำหรับพื้นที่การเกษตร ก็เสียหายไปก่า 3 ล้านไร่ ถนนกว่า 5,000 สาย น้ำท่วมบ้านเรือน กว่า 15,000 หลังคาเรือน ยังคงมีสถานการณ์ที่น่าห่วงอีก 28 จังหวัด ที่มีปัญหาอุทกภัยจากน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และน้ำระบายไม่ทัน
ข่าวที่อยู่ในความสนใจในวันนี้ (7 ต.ค.) ยังอยู่ที่สถานการณ์น้ำท่วม ที่ภาคกลางก็ยังหนัก เมื่อมีหนังสือยืนยันออกมาว่า ขณะนี้น้ำได้เต็มความจุเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แล้ว ต้องเร่งระบายน้ำออกโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะทำให้น้ำในเขื่อนป่าสักสูงขึ้นอีก 1 เมตรทันที และได้ประกาศเตือนให้ 3 อำเภอในจ.พระนครศรีอยุธยาเตรียมรับมือไม่ว่าจะเป็นอ.ท่าเรือ, อ.นครหลวง และอ.พระนครศรีอยุธยา
ผลกระทบที่เกิดขึ้น หลังจากการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่จ.สระบุรี ทหารต้องสนธิกำลังเกือบ 100 นาย กระจายเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน ต.บ้านครัว อ.บ้านหม้อ ขนทรัพย์สินมาไว้บนที่สูง เมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) เนื่องจากระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นอีกกว่า 30 เซ็นติเมตร สาเหตุเนื่องจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้เร่งผันน้ำเพิ่มขึ้น 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากเดิมกว่า 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้มวลน้ำจากแม่น้ำป่าสัก เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 400 หลัง
ลูกช้าง และช้างแม่ลูกอ่อนในวังช้างอยุธยา ถูกเร่งขนย้ายขึ้นที่สูง เพราะที่อยู่ของช้างติดกับแม่น้ำลพบุรี เมื่อวานนี้ น้ำก็เริ่มไหลเข้าท่วมที่อยู่ของช้างแล้ว ขณะที่ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น ทำให้เจ้าของเกรงว่า ลูกข้างที่เกิดใหม่จะติดเชื้อโรคที่มากับน้ำ โดยการย้ายช้างครั้งนี้ จะย้ายเพียงช้างที่มีร่างกายอ่อนแอ ช้างแก่และช้างแม่ลูกอ่อนไปอยู่บนที่สูงจนกว่าน้ำจะลด
หลายพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายไปแล้ว ถูกมวลน้ำจากเขาใหญ่ ไหลทะลักเข้าท่วมซ้่ำอีก โดยเฉพาะที่ภาคตะวันออกอย่างเช่นที่สระแก้ว ปราจีณบุรี
ฝนที่ตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคตะวันออกถูกน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะพื้นที่ 4 อำเภอ ในจ.สระแก้วซึ่งถูกน้ำป่าทะลักเข้าท่วม ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพชาวบ้านบางส่วน ออกมาอยู่ในที่ปลอดภัยเจ้าหน้าที่ต้องใช้รถบรรทุกสิบล้อ เร่งอพยพชาวบ้าน ในหมู่บ้านทุ่งกระบินทร์ ต.บางใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว มายังที่ปลอดภัย หลังน้ำป่ายังคงไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง และมีระดับสูง
ขณะที่สถานการณ์ค่อนข้างหนักอีกที่หนึ่งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันท์ หลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำป่าไหลลงมา บริเวณถนนเพชรเกษม ซอยหัวหิน 112 จนรถสัญจรลำบาก น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน ทหารจากศูนย์การทหารราบค่ายธนรัชต์ ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในหมู่บ้านพงษ์นเรศ เบื้องต้นมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 500 คน