เร่งติดตามคนร้าย
เครือข่ายเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันใน 16 จังหวัดภาคใต้ เปิดเส้นทางขาขึ้นกรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้เกษตรกร ไปเข้าร่วมสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่รัฐบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งติดตามผู้ก่อเหตุใช้อาวุธสงคราม กราดยิงใส่บ้านของแกนนำและชาวบ้าน 4 หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา (31 ต.ค.) เบื้องต้นคาดว่า อาจเป็นมือที่ 3
วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส รายงานว่า หลังจากเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันใน 16 จังหวัดภาคใต้ เปิดเส้นทางจราจรขาขึ้น เข้ากรุงเทพมหานคร จ.ประขวบคีรีขันธ์ ทำให้เจ้าหน้าใช้เครื่องมือหนัก เข้าตัดต้นไม้ที่กีดขวางการจราจร ทั้งนี้ เพื่อเปิดให้ผู้ชุมนุมชาวสวนยางพารา เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มเกษตรกร จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือสามารถเดินทางไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่กรุงเทพมหานครด้วย
ขณะเดียวกัน แกนนำได้ประกาศทวงคืนสถานีตำรวจ หลังปล่อยให้มีการกราดยิงอาวุธสงคราม และขว้างระเบิด ใส่บ้านของชาวบ้าน รวมถึงบ้านของแกนนำเสียหาย 4 หลัง เมื่อคืนที่ผ่านมา (31 ต.ค.) พร้อมประณามการกระทำของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากเหตุกราดยิง ไม่พอใจเจ้าหน้าที่ เนื่องจากบริเวณจุกเกิดเหตุอยู่ห่างจากป้อมยามตำรวจไม่ถึง 200 เมตร จึงเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่จะไม่ได้เสียงปืนดังกล่าว
ด้านรองประธานเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันใน 16 จังหวัดภาคใต้ ระบุว่า ไม่ต้องการให้มือที่ 3 กดดันกลุ่มผู้ที่ชุมนุมเพื่อให้ล้มเลิกการชุมนุมด้วยวิธีเช่นนี้ เพราะถึงอย่างไร จะยังคงยืนหยัด และปักหลักชุมนุมต่อไป
ทั้งนี้ ทีมข่าวไทยพีบีเอส ได้สำรวจความเสียหายของถนนสายรอง หลังถนนเพชรเกษมสายหลัก ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งพบว่า ถนนชำรุดแล้วกว่า 20 จุด และยังคงไม่สามารถซ่อมแซมได้ เนื่องจากมีรถวิ่งเส้นทางนี้จำนวนมาก ซึ่งเป็นสาเหตุ ให้มีรถบรรทุกพลัดตกคูหลายครั้ง เพราะเส้นทางเล้ก และแคบ
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมที่ยืดเยื้อของกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงการก่อเหตุก่อกวนกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้ตลอกทั้งคืนนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงเข้มงวดความปลอดโดยรอบบริเวณ