เพชรเชียงคาน พื้นที่โรงภาพยนตร์ทางเลือก
ดัดแปลงจากนวนิยายหนากว่า 600 หน้า และใช้เวลาถ่ายทำนานเกือบปี หากภาพยนตร์เรื่องปิตุภูมิ พรมแดนแห่งรัก ผลงานภาพยนตร์ของยุทธเลิศ สิปปภาค ซึ่งตั้งใจจะเข้าฉายปลายปีที่แล้วกลับต้องล้มเลิกไป เพราะทางเจ้าของทุนเกรงว่าอาจเกิดผลกระทบจากเนื้อหาที่พูดถึงปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ นี่คือหนึ่งในแรงผลักดันที่ทำให้ผู้กำกับภาพยนตร์วัย 47 ปี หันมาเริ่มโครงการในฝัน ใช้เงินค่ากำกับภาพยนตร์ลงทุนสร้างโรงหนังชุมชน ไม่เพียงตั้งใจให้เป็นพื้นที่ฉายภาพยนตร์ต้องห้ามของตัวเอง และอยากเปิดกว้างให้ภาพยนตร์ทางเลือกได้เผยแพร่
โรงหนังขนาด 100 ที่นั่ง สร้างด้วยไม้เก่าและออกแบบสถาปัตยกรรมให้กลมกลืนกับอาคารและบรรยากาศรอบข้าง คือพื้นที่คนรักภาพยนตร์ในฝัน ที่ยุทธเลิศ ตั้งใจเช่าพื้นที่กลางเมืองเชียงคาน จังหวัดเลย นาน 13 ปี เป็นที่ตั้งของเพชรเชียงคาน โรงภาพยนตร์และพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งชื่อตามอย่างเพชรราม่า โรงหนังเก่าที่ผู้กำกับชื่อดังผูกพันในวัยเด็ก และสร้างแรงบันดาลใจให้หันมาทำงานกำกับภาพยนตร์จนถึงปัจจุบัน
ทุกวันนี้ ยุทธเลิศใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกลับระหว่างกรุงเทพและเชียงคาน เพื่อสานต่อความฝันโรงภาพยนตร์ชุมชนของตัวเอง และตั้งใจว่าหลังหมดสัญญาเช่าแล้ว โรงภาพยนตร์เพชรเชียงคาน จะป็นสมบัติของชุมชนและของเมืองเก่า ไม่เพียงตั้งใจเพิ่มพื้นที่ในการฉายภาพยนตร์ทางเลือกซึ่งหาโรงฉายได้ยาก แต่ยังต้องการให้เป็นโรงภาพยนตร์ที่จะส่งต่อความหลงไหล และความรักในภาพยนตร์ให้กับคนคอเดียวกัน
แท็กที่เกี่ยวข้อง: