นัดนี้เล่นกันที่สนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ค นิวคาสเซิล รับการมาเยือนของอาร์เซน่อล นัดนี้ทั้ง 2 ทีมเล่นกันได้อย่างสนุกสูสีแต่เป็นอาร์เซน่อลที่มาได้ประตูชัยในนาทีที่ 65 จากจังหวะที่ธีโอ วัลคอตต์ เปิดฟรีคิกเข้ามาให้โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ โหม่งเช็ดเข้าประตู จบเกมอาร์เซน่อล บุกเฉือนชนะ นิวคาสเซิล 1-0 พร้อมกับแซงแมนฯซิตี้ ขึ้นรั้งจ่าฝูงโดยมี 42 คะแนนจาก 19 นัด ส่วนนิวคาสเซิลมี 33 คะแนนรั้งอันดับ 8
อีกคู่ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี รับการมาเยือนของลิเวอร์พูล เริ่มเกมแค่ 3 นาที ลิเวอร์พูลได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะการเปิดฟรีคิกเข้ามาในเขตโทษ ซัวเรซโหม่งไปถูกบรานิสลาฟ อิวาโนวิช บล็อคไว้ได้ แต่บอลไปเข้าทางมาร์ติน สเคอร์เทล ยิงโล่ง ๆ เข้าประตู
หลังจากนั้นเป็นเชลซีที่ครองเกมบุกไว้ได้ และมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากเอดอง อาซาร์ ในนาทีที่ 17 เชลซียังไม่เพลาการบุก และมาได้ประตูแซงขึ้นนำ 2-1 ในนาทีที่ 34 จากซามูเอล เอโต้
เกมหลังจากนั้นทั้ง 2 ทีมมีโอกาสได้ประตูอีกหลายครั้ง แต่ก็พลาดไปหมด จบเกม เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 เชลซีรั้งอันดับ 3 มี 40 คะแนน ส่วนลิเวอร์พูลหล่นมาอยู่อันดับ 5 มี 36 คะแนน
ต่อกันที่เอฟเวอร์ตัน เปิดกูดิสัน ปาร์ค รับการมาเยือนของเซาแธมป์ตัน ซีมัสโคลแมนยิงให้เอฟเวอร์ตัีนขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 9 แต่แกสตัน รามิเรซ มายิงไกลตีเสมอให้เซาแธมป์ตันในนาทีที่ 71
3 นาทีถัดมา โรเมลู ลูกากู กลายเป็นฮีโร่ให้กับเอฟเวอร์ตันเมื่อยิงประตูชัยให้เอฟเวอร์ตัน ชนะ เซาแธมป์ตัน 2-1 เอฟเวอร์ตันขยับขึ้นรั้งอันดับ 4 มี 37 คะแนน ส่วนเซาแธมป์ตันมี 27 คะแนนรั้งอันดับ 9
อีกที่ สเปอร์ เปิดไวท์ ฮาร์ทเลน พบ สโต๊ก เกมนี้เป็นสเปอร์ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมและมาได้ประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 37 จากจุดโทษของโรแบร์โต้ โซลดาโด ก่อนที่ครึ่งหลังสเปอร์จะมาได้เพิ่มอีกสองประตูจากมุสซ่า เดมเบเล่ นาทีที่ 65 และอารอน เลนนอน นาทีที่ 69 จบเกม สเปอร์ ชนะ สโต๊ก 3-0 สเปอร์รั้งอันดับ 7 มี 34 คะแนน ส่วนสโต๊กอยู่อันดับ 12 มี 21 คะแนน