นักวิชาการแนะไทยแสดงบทบาทนำแก้ไขปัญหาชาวโรงฮิงญาอพยพ
วันนี้ (21 พ.ค.2558) ดร.สักกรินทร์ นิยมศิลป์ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอสว่า ประเทศไทยควรพลิกวิกฤตเป็นโอกาสและแสดงบทบาทนำในภูมิภาคอาเซียนในการผลักดันการแก้ไขปัญหาการอพยพของชาวโรฮิงญาให้เป็นรูปธรรม ที่ผ่านมาไทยเคยมีบทบาทนำมาแล้วในการแก้ไขปัญหาผู้อพยพอินโดจีน
"ประเทศไทยควรแสดงบทบทนำในการแก้ไขปัญหาผู้อพยพชาวโรฮิงญา ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในระยะกลางและระยะยาวได้ ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ แรงงานข้ามชาติได้" ดร.สักกรินทร์ ระบุ
ดร.สักกรินทร์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) ในการประชุม 3 ฝ่ายระหว่างไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาชาวโรฮิงญาอย่างต่อเนื่องซึ่งมีการตกลงในการระงับการผลักดันผู้อพยพชาวโรฮิงญา นอกจากนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและเมียนมาก็ได้หารือกันซึ่งทางการเมียนมาได้ตกลงว่าจะส่งผู้แทนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสหรือเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการเข้าร่วมประชุมในวันที่ 29 พ.ค. นี้ด้วย ซึ่งล่าสุดมีตัวแทนตอบรับแล้ว 17 ประเทศ
ขณะที่ท่าทีในการช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮิงญาของมาเลเซีย อินโดนีเซีย ที่เปลี่ยนไป ซึ่งมีการช่วยเหลือชาวโรฮิงญา รวมถึงฟิลิปปินส์ และติมอร์เลสเต กัมพูชา ที่ก็ให้การช่วยเหลือเช่นกันซึ่งเป็นไปตามภาคีตามอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัยซึ่งประเทศเหล่านี้มีความผูกพันในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ขณะที่ไทยซึ่งไม่ได้ร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญาดังกล่าวจึงใช้กฎหมายภายใน เช่นกฎหมายการค้ามนุษย์ในการแก้ไขปัญหา
ขณะที่การที่ไทยยังคงยังคงสงวนท่าทีในการช่วยเหลือชาวโรฮิงญา เนื่องจากระหว่างนี้จำเป็นต้องมีการต่อรองกับประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าวและต้องการแถลงผลการประชุมอย่างเป็นรูปธรรมในวันที่ 29 พ.ค.นี้ เนื่องจากอาจยังมีเงื่อนไขที่ดีมากกว่าในการประชุมเบื้องต้น 3 ฝ่าย
"อินโดนีเซียและมาเลเซียต้องแสดงท่าทีเนื่องจากเกี่ยวข้องกับกรณีโรฮิงญาโดยตรง มาเลเซียเป็นประธานอาเซียนปัจจุบันจึงต้องแสดงท่าทีในการแก้ไขปัญหามากกว่าประเทศอื่น ขณะที่อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศใหญ่สุดในอาเซียน และก็เป็นหนึ่งในผู้นำอาเซียนก็ต้องแสดงบทบาทเช่นเดียวกัน ขณะที่ไทยมีบทบาทมาโดยตลอดในการแก้ไขผู้ลี้ภัยคราวนี้ต้องแสดงท่าทีเช่นเดียวกัน" ผู้เชี่ยวชาญด้านการย้ายถิ่นอาเซียนและประเด็นข้ามชาติ กล่าว
จากนี้ไปจะมีความเคลื่อนไหวที่มากขึ้นเช่น วันนี้ (21 พ.ค.2558) ผู้แทนสหรัฐฯจะเดินทางไปพบกับผู้แทนเมียนมาที่เนปิดอว์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียจะไปพบฝ่ายเมียนมาที่เนปิดอว์เช่นเดียวกัน ฉะนั้นทุกฝ่ายกำลังเคลื่อนไหวในประเด็นเช่นนี้อยู่เนื่องจากต้องการแสดงบทบาทนำซึ่งไทยจำเป็นต้องแสดงบทบาทภาวะผู้นำและเคลื่อนไหวในการประสานฝ่ายต่างอย่างเร่งรัดและติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด
ดร.สักกรินทร์ กล่าวว่า ไทยต้องผลักดันการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรมและการแก้ไขเฉพาะหน้า ระยะกลางและระยะยาว ซึ่งไทยมีสัมพันธ์ที่ดีกับเมียนมาควรหาทางให้เมียนมาเปิดรับไปดูแลผู้อพยพชาวโรฮิงญาซึ่งจะทำให้มีการอพยพออกมาน้อยลง รวมถึงการประสานกับประเทศต่าง ๆ เช่นการไปพำนักในประเทศที่ 3 ซึ่งสหรัฐฯเริ่มออกมาแสดงท่าทีแล้ว รวมถึงการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งวันที่ 29 ไทยจะต้องแสดงท่าทีออกมาอย่างชัดเจน