จลาจลคีร์กิซสถานวันที่สามยังไม่สงบ
เหตุจลาจลและการสังหารในเมืองทางตอนใต้ของคีร์กิซสถาน ที่มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติ คือผู้มีเชื้อสายคีร์กิซและอุซเบก เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว โดยรัฐบาลชั่วคราวยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แม้จะเสริมกำลังทหารเข้าพื้นที่ที่ประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ยิงเพื่อสังหารผู้ก่อเหตุจลาจลแล้วก็ตาม
เมืองออซ ทางภาคใต้ของคีร์กิซสถาน ยังคงตึงเครียด พบกลุ่มควันรวมทั้งซากอาคารที่ถูกเพลิงไหม้อยู่ทั่วเมือง รวมทั้งกลุ่มประชาชนที่คาดว่า เป็นชาวคีร์กิซสถานเชื้อสายคีร์กิซ ติดอาวุธและตั้งด่านอยู่ตามท้องถนน
มีรายงานว่าเหตุจลาจลที่เกิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่อกว่าร้อยคน และบาดเจ็บกว่าพันคน
แต่คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงกว่านี้ เพราะมีผู้พบเห็นศพถูกทิ้งอยู่ตามท้องถนน และไม่มีใครกล้าเข้าไปเก็บศพ ขณะที่ผู้บาดเจ็บบางส่วนก็ไม่กล้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย
รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่เมืองออซ และเมืองจัลลาลาบัดที่อยู่ข้างเคียง ซึ่งเริ่มมีความรุนแรงปะทุขึ้นในลักษณะเดียวกัน และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คนที่เมืองจัลลาลาบัด
โดยทางการสั่งเคอร์ฟิวตลอด 24 ชั่วโมง และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ ยิงเพื่อสังหารผู้ก่อเหตุจลาจลและไล่ล่าสังหารผู้คนได้ทันทีรวมทั้งสั่งระดมกำลังทหารกองหนุนถึงอายุ 50 ปี เข้าร่วมภารกิจระงับเหตุจลาจล หลังรัสเซียปฏิเสธส่งกองกำลังช่วยระงับเหตุ
โดยเหตุจลาจลเกิดขึ้นตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดี โดยมีจุดเริ่มต้นจากความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติโดยผู้ที่มีเชื้อสายคีร์กิซ อ้างว่าผู้มีเชื้อสายอุซเบก เป็นผู้เริ่มก่อนด้วยการทำร้ายนักศึกษาเชื้อชาติคีร์กิซและผู้หญิง ทำให้เกิดการแก้แค้น จนเป็นเหตุจลาจล ต่างฝ่ายต่างเผาทำลายและสังหารกันและกัน ท่ามกลางความกังวลว่ารัฐบาลจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
แต่รักษาการประธานาธิบดีอ้างว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างสถานการณ์ของอดีตประธานาธิบดีที่ถูกโค่นจากตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายนเพื่อให้เกิดเหตุนองเลือดที่เมืองออซ
เมื่อปี2533 เคยเกิดเหตุจลาจลและนองเลือดระหว่างเชื้อชาติที่เมืองออซมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนเหตุการณ์สงบลงได้เนื่องจากกองกำลลังรัสเซียเข้าควบคุมสถานการณ์
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
-