Thailand Web Stat
ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

คกก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ชี้ชะตา โครงการแลนด์บริดจ์ปากบารา 1 ส.ค.นี้

สิ่งแวดล้อม
20 ก.ค. 59
01:57
1,266
Logo Thai PBS
คกก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ชี้ชะตา โครงการแลนด์บริดจ์ปากบารา 1 ส.ค.นี้
คชก.เห็นชอบ "อีไอเอ" โครงการแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล เสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมพิจารณา 1 ส.ค.นี้

วานนี้ (19 ก.ค.2559) สำนักข่าวสิ่งแวดล้อม Greennews รายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาติดตามผลการศึกษาความเหมาะสมในโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา อ.ละงู จ.สตูล เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2559 ได้รับทราบความคืบหน้าโครงการทางรถไฟเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน (แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล) ซึ่งเป็นส่วนเชื่อมต่อระหว่างท่าเรือน้ำลึกปากบารา และท่าเรือสงขลา 2 ด้วยเส้นทางรถไฟความยาวประมาณ 142 กิโลเมตร โดยพบว่าสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคมได้จัดส่งรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แล้ว

นายสุโข อุบลทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สผ. กล่าวว่า รายงานอีไอเอแลนด์บริดจ์ได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการชำนาญการ (คชก.) แล้วตั้งแต่เดือน ก.พ.2559 ขณะนี้ สนข.อยู่ระหว่างทำรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อเสนอสู่การพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในวันที่ 1 ส.ค.นี้
นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้า กล่าวว่า โครงการท่าเรือปากบาราและท่าเรือสงขลาเป็นท่าเรือน้ำลึกประเภทเดียวกัน เดิมกระทรวงคมนาคมมองว่าท่าเรือปากบาราจะเชื่อมไปยังประเทศตะวันตก ส่วนท่าเรือสงขลา 2 เป็นการขยายประสิทธิภาพของท่าเรือสงขลาเดิม แต่หากการเชื่อมโยงระหว่าง 2 ท่าเรือนี้ สามารถเพิ่มศักยภาพของการขนส่ง ก็จะเป็นประโยชน์มากขึ้น
นายสมบูรณ์ คำแหง ตัวแทนเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนา จ.สตูล กล่าวว่า โครงการท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบาราไม่ได้เป็นโครงการเดี่ยว แต่จะเกี่ยวข้องกับโครงการแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล ที่มีเส้นทางรถไฟเชื่อมท่าเรือสองฝั่งเข้าหากัน ซึ่งหลายคนยังเข้าใจผิดว่าเป็นคนละโครงการกัน จึงต้องทำให้ข้อมูลภาพรวมของโครงการทั้งหมดเปิดเผยสู่สาธารณะมากกว่านี้
นายภูมินทร์ หะรินสุต ประธานสมาคมเจ้าของเรือไทย กล่าวว่า แม้ผู้ประกอบการจะอยากมีประตูออกสู่อันดามัน แต่ความคุ้มค่าไม่ได้อยู่ที่สามารถร่นระยะเวลาเดินเรือมากน้อยเพียงใด เงื่อนไขที่ผู้ประกอบการจะใช้พิจารณาว่าจะใช้ท่าเรือเพื่อขนส่งสินค้าหรือไม่จึงอยู่ที่ราคาสินค้าเหมาะสมหรือไม่ ฉะนั้นหากจะก่อสร้างเพื่อเก็บค่าเทียบเรือ เก็บค่าผ่านสินค้า คงจะเป็นไปไม่ได้

“ตัวอย่างเช่นการขนส่งยางพาราไปจีน ทำไมออกจากท่าเรือสงขลาจึงแพงกว่าออกจากท่าเรือปีนัง ทั้งที่ปีนังวิ่งไกลกว่าอีก 5 วัน นั่นเพราะค่าระวางเรือจากสงขลาไปจีนนั้นแพงกว่า ดังนั้นเราต้องคิดว่าถ้าจะก่อสร้างจริงจะสามารถแข่งขันกับท่าเรืออื่นอย่างไร มีจุดเด่นที่จะขายอย่างไร”นายภูมินทร์ กล่าว

พล.ร.อ.ยุทธนา ฟักผลงาม ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการคมนาคมทางน้ำและการพาณิชยนาวี กล่าวว่า โครงการแลนด์บริดจ์เป็นเพียงส่วนย่อยของยุทธศาสตร์ใหญ่คือการเป็นจุดศูนย์กลางแหล่งกระจายสินค้าทั้งภายในประเทศและระหว่างอาเซียน และท่าเรือปากบาราก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งสินค้าที่มีความสำคัญของประเทศ ไม่ใช่เฉพาะ จ.สตูล เท่านั้น
สำหรับการดำเนินการ ขณะนี้มีการเชื่อมเส้นทางรถไฟกับประเทศกัมพูชา ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ ส่วนประเทศลาวก็กำลังสร้างโกดังสินค้าซึ่งจะมีเส้นทางรถไฟเชื่อมไทยให้เป็นประตูสู่ทะเล ทางด้านประเทศพม่าก็อยู่ระหว่างเจรจาทั้งเส้นทางรถไฟและรถยนต์ นอกจากนี้ยังรวมถึงการขนส่งระหว่างทวีปอื่นๆ ด้วย

นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผวจ.สตูล กล่าวว่า จ.สตูล เป็นจังหวัดหนึ่งในราชอาณาจักรไทย ดังนั้นผลประโยชน์ของชาติไทยต้องมาก่อน ผลประโยชน์ของภาคหรือจังหวัดต้องรองลงมา และผลประโยชน์ของชุมชนก็ต่ำกว่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะละเลยความเดือดร้อน

“การรับฟังความคิดเห็นก็ได้มีมาแล้วมากมาย แต่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จเพราะมีการคัดค้านต่อต้าน จึงอยากขอให้ทุกฝ่ายไม่ว่าราชการ ท้องถิ่น ผู้สนับสนุน ผู้คัดค้าน นักวิชาการ หรือเอ็นจีโอ มาร่วมลงนามเอ็มโอยูกันดีกว่า ตกลงกันว่าเราจะผลักดันให้เกิดการศึกษาให้สำเร็จ ไม่เช่นนั้นก็จะพูดไปคนละทิศละทาง”นายภัทรพนธ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Failed to load player resources

Please refresh the page to try again.

ERROR_BYTEARK_PLAYER_REACT_100001

00:00

00:00

ให้คะแนนการอ่านข่าวนี้