ในภาคใต้มีปัญหา การลักลอบนำเข้าเนื้อวัวเนื้อควายที่หนีภาษีเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย เนื้อเถื่อนเหล่านี้จะขายราคาถูกกว่าท้องตลาด พ่อค้าแม่ค้าที่ขายเนื้อถูกกฎหมายกำลังเดือดร้อน
เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพ่อค้าแม่ค้าเท่านั้น ผู้บริโภคเองก็เสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากเนื้อที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด
นอกจากนี้ ปัญหาไม่ได้อยู่เฉพาะที่ภาคใต้ คนอยู่กรุงเทพ ภาคเหนือ ภาคอีสาน แต่เนื้อเหล่านี้ ยังถูกส่งไปขาย และผลิตเป็นลูกชิ้นในภาคอื่นๆ ด้วย เรื่องนี้จึงกระทบไปถึงสุขภาพของผู้บริโภคด้วย เพราะเนื้อเถื่อนเหล่านี้ ไม่ผ่านการตรวจสอบ ทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากโรค ที่ติดมากับเนื้อเถื่อน จากการตรวจสอบของทีมข่าว พบว่า พรมแดนไทย-มาเลเซีย จึงเป็นช่องทางหลักของการลักลอบขนส่งเนื้อเถื่อน
จากข้อมูลระบุว่า ต้นทางเนื้อเถื่อน มาจากท่าเรือของอินเดียที่ ลำเลียงเนื้อใส่ตู้คอนเทนเนอร์มาขึ้นฝั่งที่ ท่าเรือปีนัง ประเทศมาเลเซีย
จากมาเลเซียมาไทย ก็จะผ่านด่านพรมแดน 3 ด่าน ที่ใช้เป็นเส้นทางการขนเนื้อเถื่อน
1. เริ่มตั้งแต่ ด่านอำเภอสุไหงโกลก จ.นราธิวาส ที่ใช้รถไฟในการขนส่ง
2. ถัดมาคือ ด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ด่านนี้ใช้รถยนต์ขนส่ง
3. ด่านวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล ด่านนี้ติดมีลักษณะภูมิประเทศที่ติดกับทะเลอันดามัน จึงสามารถขนส่งได้ทั้งรถยนต์ และเรือ
ส่วนโกดังที่รวบรวมเนื้อทั้งหมดจะอยู่ที่ 3 โกดังหลักๆ ในจ.สงขลา ที่อ.จะนะ อ.หาดใหญ่ และปาดังเบซาร์ อ.สะเดา
สัตวแพทย์ชำนาญการ ด่านกักกันสัตว์ จังหวัดสงขลา บอกเหตุผลที่ทำให้ไทยไม่รับรองเนื้อจากอินเดีย เพราะเนื้อที่ลักลอบนำเข้าจะไม่ผ่านการตรวจโรคจากสำนักงานปศุสัตว์ ประชาชนจึงไม่ควรซื้อไปบริโภค เพราะจะเสี่ยงต่อการติดโรค ที่มาจากเนื้อเถื่อน
นายอนันต์ พุทธให้ สัตวแพทย์ชำนาญงาน ด่านกักกันสัตว์ จ.สงขลา ระบุว่า อีกโรคที่น่าเป็นห่วง ก็คือ โรควัวบ้า หรือ โรคระบบประสาทเสื่อมในวัว และควาย โรคนี้เกิดขึ้นได้จากการกินเครื่องใน และเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อโรค คนที่ได้รับเชื้อจะมีอาการนอนไม่หลับ หรือ อาการทางประสาท และ อาจจะเสียชีวิตได้คะ ไม่เพียงผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ในทางเศรษฐกิจก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะเนื้อลักลอบแช่งแข็งเข้ามาตีตลาด ทำให้โรงเชือด และตลาดเนื้อวัว สั่งหยุดรับซื้อจากเกษตรกรชั่วคราว
ล่าสุดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เร่งปรามปรามเนื้อเถื่อน เพราะอาจจะเป็นช่องทางหาเงินสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และที่ผ่านมาไม่ได้มีเพียงเนื้อเท่านั้น แต่ยังมีบุหรี่ และสุราที่ลักลอบผิดกฎหมาย แต่ดูเหมือนว่าแนวโน้มของการค้าเนื้อจะน่าเป็นห่วง เพราะเพียง 3 เดือนที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ จับได้ทั้งหมดเกือบ 20 ตัน