วานนี้ (21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า ที่น้ำตกนางรอง ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก มีปริมาณนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมความงามทางธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีปริมาณน้ำจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไหลลงมาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีความแรง ทำให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สั่งห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดอันตราย แต่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชม ความงามตามธรรมชาติภายในอุทยานได้
ขณะที่เขื่อนขุนด่านปราการชล มีปริมาณน้ำสะสมในเขื่อนในปริมาณที่สูงขึ้น อยู่ที่ 164.17 ล้านลูกบากส์เมตร คิดเป็น 73.29% ของความจุเขื่อน ซึ่งมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง 6,151,985 ล้านลูกบากเมตรต่อวัน เมื่อวัดปริมาณฝนที่ตกตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. ถึงเช้าวันที่ 21 ก.ย. อยู่ที่ 151.40 มิลลิเมตร
สำหรับสถานการณ์น้ำพื้นอ.ปากพลี ได้รับผลกระทบจากกรณีฝนตกหนัก เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา มีหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไหลหลากจำนวน 4 ตำบล 10 หมู่บ้าน ทั้งนี้ได้ทางอำเภอปากพลีได้เข้าให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
นอกจากนี้ ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่รับน้ำจากเขาใหญ่ เช่นที่บ้านดงบัง ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี สร้างความเสียหายต่อสวนสมุนไพร และแหล่งจำหน่ายต้นไม้ขนาดใหญ่จากสวน เกือบ 100 ไร่ โดยเฉพาะที่หมู่ 6 ต.ดงขี้เหล็ก ซึ่งปลูกพืชสมุนไพร ส่งขายให้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร น้ำท่วมขังถนนทางเข้าหมู่บ้าน สูงกว่า 30 เซนติเมตร
นายสมัย คุณสุข ประธานที่ปรึกษาสมุนไพรบ้านดงบัง บอกว่า พืชสมุนไพรที่ปลูกในหมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมมากว่า 3 วัน ทำให้สมุนไพรตายจำนวนมาก เช่น หญ้าปักกิ่ง หญ้าหนวดแมว อัคคีทวาร โดยทางอบต.ดงขี้เหล็ก ได้วางท่อระบายน้ำ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน ยังคงได้รับความเดือดร้อนจากน้ำป่าไหลหลาก และ น้ำท่วมขังพื้นที่เกษตร ขณะที่กรุงเทพมหานคร ฝนที่ตกตั้งแต่ช่วงเย็นต่อเนื่องจนถึงกลางดึก ทำให้ถนนหลายสายมีน้ำท่วมขัง
ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้ถนนหลายสายเกิดน้ำท่วมขัง เช่น ภายในซอยวิภาวดี 3 บริเวณด้านหลังกรมการขนส่งทางบก ที่มีน้ำท่วมสูงเสมอฟุตบาธเป็นช่วงๆ
เช่นเดียวกับถ.พหลโยธิน บริเวณทางขึ้นลงบีทีเอสหมอชิต ไปจนถึงแยกสะพานควาย รวมทั้งถ.สุทธิสาร บางจุดมีน้ำท่วมขัง โดยสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ตรวจวัดปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ กทม. อยู่ระหว่าง 55 - 68 มิลลิเมตร
ส่วนข้อมูลที่ถูกส่งต่อทางโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ฝนที่ตกหนักมาจากอิทธิพลของพายุ TORAY มีคำยืนยันจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า ไม่มีพายุดังกล่าว และพายุจริงที่เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา คือ ไต้ฝุ่นมาลากัส ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย
นอกจากนี้ ฝนที่ตกต่อเนื่อง ยังส่งผลกระทบในพื้นที่ภาคเหนือ โดยทหารกองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง จ.เพชรบูรณ์ เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นสู่ที่สูง หลังฝนที่ตกหนัก ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาซับไม้แดง ไหลเข้าท่วม หลายหมู่บ้านในพื้นที่ต.วังพิกุล อ.บึงสามพัน พื้นที่เกษตรถูกน้ำท่วมหลายร้อยไร่ ชาวบ้านบอกว่าน้ำท่วมครั้งนี้ รุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี
ส่วนที่จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบระดับน้ำในคลองแม่วงก์ เขตติดต่อ จ.นครสวรรค์ และ จ.กำแพงเพชร โดยพบว่า ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ในเกณท์อันตราย เจ้าหน้าที่เร่งแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่อาศัยในพื้นที่ด้านล่างของ ต.แม่เล่ย์ ต.เขาชนกัน และ ต.วังซ่าน อ.แม่วงก์ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์ พร้อมขนของขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ที่จ.พิจิตร ซึ่งรับน้ำต่อจากจ.สุโขทัย และ พิษณุโลก น้ำได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่บ้านปากคลอง ต.รังนก อ.สามง่าม ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำสุดของแม่น้ำยม แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายแก่พื้นที่เกษตร เนื่องจากชาวนาส่วนใหญ่เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวไปก่อนหน้านี้ ส่วนน้ำที่ท่วมบ้านเรือน ก็เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ประชาชนเตรียมเรือไว้สัญจรในช่วงอุทกภัยเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว
ส่วนโรงเรียนแม่สลิดหลวงวิทยา ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก หยุดเรียนตลอดทั้งสัปดาห์ เพื่อเร่งฟื้นฟูความเสียหาย ก่อนจะเปิดเรียนอีกครั้งในสัปดาห์หน้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 อยู่ระหว่างการพิจารณาว่า อาจย้ายโรงเรียนออกจากพื้นที่เดิมเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากเป็นพื้นซ้ำซาก
สถานการณ์น้ำท่วมถนนมิตรภาพ ทางคู่ขนาน ตั้งแต่ช่วงปากทางเข้าตัวอ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา น้ำได้ลดระดับลง อย่างต่อเนื่องเหลือเพียง 30 เซนติเมตร แต่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในบ้านโนนกุ่มเหนือ ต.มิตรภาพ
ส่วนฝนที่ตกหนัก ในจ.บุรีรัมย์ ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำชี และ ลำน้ำมูล มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะลำน้ำชีเหลือเพียง 10 เซนติเมตร ก็จะล้นตลิ่ง เบื้องต้นป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ติดริมน้ำมูล และ ริมน้ำชี ให้ระวังเกิดน้ำท่วมฉับพลันในช่วงนี้
ขณะที่น้ำในแม่น้ำมูล ที่จ.อุบลราชธานี มีระดับเพิ่มขึ้น ห่างจากจุดเตือนภัยประมาณ 50 เซนติเมตร ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการแพขายอาหารที่หาดคูเดื่อ ที่ต้องขยับแพและขนย้ายสิ่งของตามระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น และมีกว่า 10 ร้านค้า ที่ปิดบริการในช่วงนี้
ส่วนเขื่อนยโสธร ที่กั้นแม่น้ำชี ต.เขื่องคำ อ.เมือง จ.ยโสธร เจ้าหน้าที่ได้ยกประตูระบายน้ำสูงสุด 4 บาน จากทั้งหมด 8 บาน เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนเพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่ พร้อมจัดเจ้าหน้าเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง