วันนี้ (27 ก.ย.2559) สำนักข่าวประเทศรายงานว่า การอภิปรายใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งในประเด็นเศรษฐกิจนั้นนายโดนัลด์ ทรัมพ์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันได้กล่าวโจมตีนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตว่า เป็นนักการเมืองที่เอาแต่พูด ไม่ยอมลงมือทำ พูดนโยบายสวยหรู แต่กลับไม่ได้เรื่อง นอกจากนี้ ยังทำให้ชาวอเมริกันตกงาน เนื่องจากการทำข้อตกลงด้านการค้าที่ล้มเหลวกับเม็กซิโกและจีน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาวอเมริกันอย่าลงคะแนนเลือกนางคลินตัน มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับการบริหารประเทศที่ผิดพลาดไปอีก 4 ปี นับจากนี้
นายทรัมพ์ ระบุว่า เขามีแผนที่จะลดภาษีให้บริษัทและธุรกิจขนาดเล็ก จากเดิมร้อยละ 35 เหลือเพียงร้อยละ 15 ซึ่งจะทำให้มีการลงทุนในประเทศมากขึ้น มีบริษัทเกิดใหม่มากขึ้น โดยชาวอเมริกันต้องการคนที่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจอย่างจริงจังมาพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพราะขณะนี้งานที่ควรเป็นของชาวอเมริกัน กลับไปอยู่ในประเทศเม็กซิโกและอีกหลายประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากการเจรจาข้อตกลงทางการค้า
ด้านนางฮิลลารี คลินตัน ตอบโต้ว่า ทรัมพ์กำลังอยู่ในโลกของตัวเอง ในขณะที่เขาพูดถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่กลับไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการขอคืนภาษี ซึ่งหมายความว่าทรัมพ์อาจจะปกปิดอะไรบางอย่างอยู่ ส่วนการทำข้อตกลงการค้านั้น รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะต้องเจรจาอย่างฉลาดและยุติธรรมและจำเป็นต้องมีระบบภาษีที่เอื้อต่อการทำงาน แต่ข้อเสนอด้านภาษีที่ทรัมพ์เสนอมาจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ
นอกจากนี้ นางคลินตันยังกล่าวถึงเรื่องที่ทรัมพ์ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลภาษี ซึ่งหมายความว่าทรัมพ์อาจจะปกปิดอะไรบางอย่างอยู่ ในขณะที่ทรัมพ์โต้กลับว่า เขาจะเปิดเผยข้อมูลภาษีก็ต่อเมื่อนางคลินตันยอมเปิดเผยอีเมล 33,000 ฉบับ ที่ถูกลบออกจากเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวของเธอไปก่อนหน้านี้
นายทรัมพ์ยังได้โจมตีนางคลินตันว่า ไม่แข็งแกร่งพอที่จะเป็นประธานาธิบดี ทำให้นางคลินตันโต้กลับว่าขณะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เธอเดินทางไป 112 ประเทศทั่วโลก เพื่อเจรจาการค้าและข้อตกลงอื่นๆ ถ้าหากทรัมพ์ทำได้อย่างเธอ ค่อยมาพูดเรื่องความแข็งแกร่งกันใหม่
ส่วนแผนการปราบปรามกลุ่มไอเอส นายทรัมพ์โจมตีคลินตันว่าการเปิดเผยแผนดังกล่าวบนเว็บไซต์ทำให้ศัตรูรู้ข้อมูลทุกอย่าง ในขณะที่นางคลินตันโต้ว่าอย่างน้อยเธอก็มีแผน แต่การที่ทรัมพ์บอกว่าเขามีแผนลับ คำว่าแผนลับ อาจหมายถึงการไม่มีแผนอะไรเลย
หลังเสร็จสิ้นการโต้อภิปราย นายทรัมพ์ได้โพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการของนายเลสเตอร์ โฮลต์ เนื่องจากไม่มีการพูดถึงประเด็นเกี่ยวกับการคอร์รัปชันของมูลนิธิคลินตัน การใช้อีเมลส่วนตัวของนางคลินตันและการโจมตีสถานกงสุลในเมืองเบงกาซีของลิเบีย ซึ่งหลังจบการโต้อภิปรายนายทรัมพ์เดินลงจากเวทีโดยไม่ได้จับมือทักทายนายโฮสต์แต่อย่างใด
ด้านนักวิเคราะห์อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากสถาบันวิจัยในญี่ปุ่นชี้ว่า ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนตัวลง ขณะที่เงินเปโซแข็งค่าขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงชัยชนะของนางคลินตันในการโต้อภิปรายนัดแรก ส่วนปฏิกิริยาจากโลกออนไลน์คึกคักขึ้นทันที โดยมีผู้ทวิตข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์มากมาย บางคนเสียดสีนางคลินว่าแต่งตัวเหมือนขวดซอสพริกและว่าใครสอนให้นางคลินตันยิ้มเหมือนกับอยู่ในงานวันเกิดหลานตัวเอง
ขณะที่นายทรัมพ์ถูกตำหนิเรื่องการสูดน้ำมูกระหว่างการโต้อภิปรายและบางคนเห็นว่านายทรัมพ์ตะโกนใส่นางคลินตันเหมือนกับลุงขี้เมา