ไม่เฉพาะชาวไทย แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติ อย่าง นายปีเตอร์ จอห์น แวน ฮาเรน อดีตประธานหอการค้าต่างประเทศในไทย นักธุรกิจชาวแคนาดา ที่อาศัยบนแผ่นดินไทยมากว่า 20 ปี
นายปีเตอร์กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีวิสัยทัศน์กว้างไกลมาก หากมองในมุมผู้บริหารบริษัท ก็คงอิจฉาท่าน เพราะแม้ท่านจะไม่ใช่นักธุรกิจ แต่ทรงมีความรู้และมีพระปรีชาสามารถอย่างมาก
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังทรงเป็นผู้นำที่ใช้นวัตกรรม การวิจัยและพัฒนา ที่ผ่านการทดลองจนเห็นผลเป็นรูปธรรม โดยนวัตกรรมถูกสร้างสรรค์จากความคิดที่เรียบง่าย แต่สามารถสร้างคุณประโยชน์มหาศาล เช่น กังหันน้ำชัยพัฒนา โครงการฝนหลวง การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ
ในมุมมองของนักธุรกิจต่างชาติ เราเรียนรู้อะไรจากพระองค์ท่าน
นายปีเตอร์เล่าว่า สิ่งที่เขาเห็นตลอดคือ ภาพ วีดีโอ ที่ในหลวงรัชกาลที่ทรงไปคุยกับคนในพื้นที่ ชาวบ้าน ชาวนา เพื่อถามว่าเขาเดือดร้อนอะไร และหาทางแก้ไขปัญหา นักธุรกิจส่วนมากไม่ทำเช่นนี้เพราะคิดว่าตัวเองมีสิทธิ เป็นผู้บริหาร เป็นเจ้าของ ไม่ต้องไปปรึกษาใคร ทุกคนต้องทำตามคำสั่ง แต่แนวคิดเช่นนี้ไม่ทำให้องค์กรโต คนในองค์กรไม่รัก และไม่มีความสุข ถ้าจะให้บริษัทมีความยั่งยืน เติบโตในระยะยาว ต้องคำนึงถึงความสำคัญของบุคลากรในบริษัทและ ใส่ใจความคิด ความรู้สึกของพวกเขา
“นักธุรกิจหลายคน ค่อนข้างรักตัวเองมากเกินไป แต่ในฐานะผู้บริหาร จะต้องมองภาพรวมองค์กร คำนึงถึงบุคลากร ไม่ทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือ แบบอย่างที่ทุกคนได้เห็น” นายปีเตอร์ กล่าว
ท้ายที่สุดนายปีเตอร์ย้ำสิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือ ท่านไม่เคยถอย ไม่เคยยอมแพ้
เมื่อภาระของเราไม่ได้หนักเท่าท่าน ดังนั้นไม่ว่าเราเป็นใคร บริษัทไหน ในประเทศไทย จะใหญ่จะเล็ก ให้ดูตัวอย่างที่ท่านทำ และได้เรียนรู้ว่าจะทำอะไรก็ต้องทำอย่างไม่ท้อถอย
นันทินี ลายละเอียด รายงาน