วันนี้ (3 ม.ค.2561) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงการดำเนินคดีรถหรูเลี่ยงภาษีที่คาดว่าจะสามารถเรียกคืนภาษีให้รัฐได้ประมาณ 10,000 ล้านบาทว่า คาดว่าจะสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการได้ภายในเดือนมกราคมนี้ โดยมีคดีที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอจำนวน 134 คดี โดยได้ร่วมกับพนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อทำคำร้องขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา และได้ข้อมูลตอบกลับมาแล้ว เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้ารถหรูจาก 3 ประเทศ ประกอบด้วยการนำเข้ารถหรูจากประเทศอังกฤษ 9,391 คัน อิตาลี 505 คัน และญี่ปุ่น 5 คัน
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า กรมศุลกากรได้ประเมินภาษีอากรขาดให้แล้ว แยกเป็นรถยนต์จากอังกฤษ 1,047 คัน มูลค่าอากรขาดประมาณ 3,495 ล้านบาท และรถยนต์จากอิตาลี 336 คัน มูลค่าอากรขาดประมาณ 5,575 ล้านบาท ซึ่งยอดนำเข้ารถหรูกว่า 1,000 คันดังกล่าวนี้ ดีเอสไอสามารถเรียกภาษีคืนให้รัฐได้กว่า 9,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ดีเอสไอได้ขอความร่วมมือไปยังประเทศอิตาลี เพื่อขอให้ส่งข้อมูลราคาขายรถยนต์ 3 ยี่ห้อ ประกอบด้วย แลมโบร์กินี เฟอร์รารี และมาเซราติ มาให้กับดีเอสไอ โดยเชื่อว่าหลังการสอบสวนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถเรียกคืนภาษีให้รัฐได้เป็นจำนวนหลายหมื่นล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถทยอยสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งได้ตั้งแต่เดือนมกราคมนี้เป็นต้นไป