วันนี้ (19 ก.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารออมสินออกหนังสือเวียนภายในเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 ให้ดำเนินการฟ้องคดีกับลูกหนี้สินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ไม่เข้าร่วมมาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ และไม่ชำระหนี้สินตามกำหนด ให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2561
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุว่า ธนาคารออมสินได้ดำเนินการช่วยเหลือ เพื่อให้ครูที่มีปัญหาได้ชำระลดลง โดยเลื่อนตารางชำระหนี้ออกไป 3 ปี ดอกเบี้ยผ่อนผัน ให้ชำระตามความสามารถ
ทั้งนี้ ครูที่มีปัญหามีอยู่ประมาณ 450,000 คน ประมาณ 300,000 - 400,000 คนที่บัญชีปกติและสามารถที่จะชำระได้ มีไม่กี่หมื่นคนที่เป็นหนี้เสีย โดยกลุ่มนี้สามารถที่จะพูดคุยเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ได้
ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง เขาก็ต้องดำเนินเรื่องทางกฎหมาย เป็นสิ่งที่เราไม่ได้อยากให้ทำ เพราะว่าสำหรับข้าราชการเมื่อถูกดำเนินคดีทางกฎหมายในเรื่องหนี้ ถือว่าขาดคุณสมบัตินะ มันก็จะทำให้ทุกคนมีปัญหาไปหมด แต่คนที่ออกมาเรียกร้องฟังดูว่าจะเป็นครูเกษียณแล้ว ก็ไม่กระทบกับเรื่องนี้ เลยออกมาเรียกได้ คนที่อยู่ในระบบยังไม่มีปัญหาอะไร
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ยืนยันว่าครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ผิดนัดชำระกับธนาคาร สามารถมาติดต่อขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ตลอดเวลา แม้จะมีการดำเนินคดีแล้วก็ตาม แต่การดำเนินการคดีเป็นหน้าที่ที่ต้องทำตามกระบวนการทางกฏหมาย
ถูกฟ้องแล้วก็ยังยื่นได้ อยู่บนศาลก็ยังมาปรับโครงสร้างหนี้ได้ ถูกพิพากษาแล้วก็ยังปรับโครงสร้างได้ มีโอกาสอยู่ตลอดเวลา คุณครูสามารถเดินไปที่ธนาคารออมสินทุกสาขา ซึ่งมีคนพร้อมจะแก้ปัญหาให้ครูอยู่แล้ว ดังนั้น การประกาศในลักษณะนี้มันเหมือนฉันขอไม่จ่าย ซึ่งไม่ใช่วิธีที่คุณครูจะกระทำ
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวของธนาคารออมสินมีขึ้นหลังการประกาศปฏิญญามหาสารคาม เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2561 โดยเรียกร้องให้ธนาคารออมสินพักหนี้โครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.ทุกโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป และลูกหนี้ ช.พ.ค.จะยุติการชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 เป็นต้น