วันนี้ (9 ต.ค2561) นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก. กำหนดอัตราค่าโดยสารรถปรับอากาศรุ่นใหม่เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง กำหนดให้รถโดยสารปรับอากาศที่วิ่งให้บริการประชาชนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจัดเก็บค่าโดยสารในอัตรา 13 - 25 บาท แต่ที่จากเดิมที่จัดเก็บค่าโดยสารในอัตรา 11- 23 บาท
เนื่องจากรถโดยสารปรับอากาศรุ่นใหม่มีเทคโนโลยีทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยนำมาทดแทนรถโดยสารเดิมที่มีสภาพเก่าทรุดโทรมเพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทางมากยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป
สำหรับรถปรับอากาศรุ่นใหม่ที่จะปรับค่าโดยสารมีทั้งรถโดยสารที่นำเข้ามาวิ่งให้บริการแล้ว และรถโดยสารที่กำลังทยอยเข้ามาเพิ่มโดย ขสมก.จะเริ่มใช้อัตราค่าโดยสารใหม่กับรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ(NGV) จำนวน 100 คัน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2561เป็นต้นไป ซึ่งปัจจุบันรถโดยสารดังกล่าววิ่งให้บริการในสาย 20, 21,37,105, 138 และสาย 140 ส่วนรถโดยสารเก่าทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศยังคงใช้อัตราค่าโดยสารราคาเดิม
นอกจากนี้ ขสมก.ยังเปิดให้บริการรับชำระค่าโดยสาร ผ่านระบบ KrungthaiQR Code บนรถโดยสารธรรมดา โดยนำร่องให้บริการบนรถโดยสารสาย 47 (ท่าเรือคลองเตย - กรมที่ดิน) เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมาและจะขยายการให้บริการบนรถโดยสารสาย 13 และสาย 136 ตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค.2561 เป็นต้นไป เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ ในการชำระค่าโดยสาร เพิ่มเติมจากวิธีเดิมที่ชำระด้วยเงินสดและเพื่อส่งเสริมนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการให้ประเทศไทย ก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด