วันนี้ (5 ส.ค.62) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 230 และ มาตรา231 เพื่อส่งคำร้องไปยังศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญ กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยกล่าวถ้อยคำไม่ครบถ้วน บางถ้อยคำขาดหายไป แต่กลับมีบางถ้อยคำเพิ่มขึ้นมา ซึ่งไม่ตรงกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 161 ซึ่งถ้อยคำที่ไม่ยอมกล่าวคำถวายสัตย์ฯ คือคำว่า “ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” ซึ่งถ้อยคำนี้ถือว่าสำคัญมาก
สะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคารพและให้ความสำคัญต่อรัฐธรรมนูญ ที่ตัวเองทำคลอดมากับมือ และอาจไม่ยอมปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญก็ได้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี ไม่ได้กล่าวถวายสัตย์ไว้ ซึ่งจะมีผลทางกฎหมายในการใช้สิทธิทางศาลในอนาคตได้
ชี้เสี่ยงรัฐบาลเป็นโมฆะ
นายศรีสุวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี ถือได้ว่าเป็นการตบหน้าคนไทยทั้ง 16 ล้านคน ที่ไปลงประชามติรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ อีกทั้งเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศด้วย แม้หลายฝ่ายและสังคมไทยท้วงติงแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ หรือการยอมรับผิดชอบต่อการกระทำแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ถ้อยคำที่คณะรัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ฯ ให้ครบ เป็นบทบัญญัติที่กำหนดไว้ตายตัวตามรัฐธรรมนูญ เพราะถือว่าเป็นสาระสำคัญอันเป็นองค์ประกอบของการถวายสัตย์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี กลับกล่าวคำถวายสัตย์ฯ ไม่ครบถ้วน อาจมีผลกระทบทางการเมืองอย่างรุนแรง ถึงขั้นทำให้รัฐบาลเป็นโมฆะ อาจทำให้การบริหารราชการแผ่นดินไม่มีผลทางกฎหมายได้ เพราะถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ ตามบทบัญญัติ มาตรา 53 ในหมวดว่าด้วยหน้าที่ของรัฐด้วย
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องหาความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว โดยนำความมาร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามมาตรา 230 และ มาตรา 231 เพื่อขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการวินิจฉัยชี้ขาดโดยเร็วต่อไป