วันที่ 5 ส.ค. 62 บรรดาพ่อค้าแม่ค้า ในตลาดกรุงศรี ได้เข้ายื่นหนังสือกับสำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์ อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอย้ายกลับไปค้าขายที่บริเวณหลังพระวิหารมงคลบพิตร ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาเที่ยวชมโบราณสถานและเคยมีร้านค้าอยู่กว่า 200 ร้าน แต่ถูกสำนักงานงานอุทยานฯ แจ้งว่าบุกรุกพร้อมกับจัดระเบียบใหม่ และให้ย้ายไปอยู่ที่ใหม่บริเวณตลาดกรุงศรี
หนังสือดังกล่าวระบุว่า การย้ายมาอยู่ที่ใหม่ทำมาค้าขายไม่ได้ ไม่มีนักท่องเที่ยวมาจับจ่ายมีเพียงรถบัสนำเที่ยวมาจอด เนื่องจากรถบัสได้ส่งนักท่องเที่ยวลงตามสถานที่ต่างๆ แล้วนำรถเข้ามาใช้เป็นพื้นที่จอดพักเท่านั้น ทำให้ร้านค้าที่มีอยู่กว่า 100 ร้าน ขายไม่ได้จนต้องกู้หนี้ยืมสินและมีบางส่วนต้องปิดร้านไป
ขณะที่แม่ค้าหลายคนยืนยันว่า ตลาดกรุงศรีไม่ได้บูรณะใหม่ การก่อสร้างก็ไม่ถาวร เต้นท์ก็ขาดเสียหาย อตนที่ย้ายมาเมื่อ 2 ปีก่อน หน่วยงานรัฐก็บอกว่า จะมีการโปรโมทให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายของฝากก็พอมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพราะมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธาน แต่ช่วงหลังซบเซา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตัวแทนสำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์ได้รับหนังสือแล้วได้ชี้แจงว่า จะต้องประชุมกับทางจังหวัดก่อน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่มรดกโลก อย่างไรก็ตามบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ได้ร่วมกันลงชื่อเพื่อยื่นหนังสือให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและสำนักนายกรัฐมนตรีผ่านไปยังพล.อ.ประยุทธ์เพื่อให้พิจารณาความช่วยเหลือต่อไป