วันนี้ (12 ส.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐว่า วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค โดยมีแกนนำเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ,นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประชุมเพื่อหาข้อยุติปัญหาพรรคเล็กขู่ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล เพราะไม่พอใจเรื่องการจัดสรรตำแหน่งข้าราชการการเมือง รวมถึงประชุมเพื่อพิจารณารายชื่อผู้ที่จะไปดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองของพรรค
โดยที่ประชุมได้หารือกรณีพรรคการเมืองขนาดเล็กขู่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลนั้น มอบหมายให้ร้อยเอกธรรมนัส เป็นผู้ประสานงานพูดคุยหลังเสร็จการประชุม เพื่อหาข้อสรุปในเงื่อนไขพรรคเล็กต่อรองขอตำแหน่ง ซึ่งคาดว่าจะจบภายในเร็วๆนี้ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นและเข้าใจพรรคเล็ก
แต่ในส่วนของพรรคขนาดเล็กที่ได้รับการจัดสรรตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง โดยจะเสนอชื่อนายชื่นชอบ คงอุดม แกนนำพรรคพลังท้องถิ่นไท บุตรชายนายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ส่วนนายชื่นชอบ จะไปอยู่ที่กระทรวงใดนั้นขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณา เนื่องจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีมีกำหนดวาระคราวละ 1 ปี
ทั้งนี้สำหรับพรรคเล็กอื่นๆ ที่พลาดตำแหน่งนั้นยังมีโอกาสในตำแหน่งอื่นๆ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีระบุว่าจะให้โอกาสทุกพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่ตำแหน่งที่ปรึกษานั้นรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงจะเป็นผู้พิจารณาเอง สำหรับรายชื่อผู้ช่วยรัฐมนตรีและที่ปรึกษารัฐมนตรีในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในวันที่ 13 ส.ค.นี้
นอกจากนี้มีวาระสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1.การเสนอขอเปิดประชุมพรรคเพื่อปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เนื่องจากให้ยึดโยงกับสภาผู้แทนราษฎรและประชาชนต่อไปในอนาคต 2.การตั้งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งมีชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้ว เพื่อให้เป็นศูนย์กลางควบคุม ส.ส. ประสานงาน. ตลอดจนรับฟังปัญหาส.ส.จากทุกภาค โดยรูปแบบจะมีการตั้ง ผอ.ภาค ในแต่ละภาคเพื่อรับปัญหามา แล้วส่งเข้าสู่ส่วนกลาง โดยคาดว่าจะมีการเสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในครั้งต่อไป
ขณะที่ภายหลังการประชุมผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามนายอุตตม ถึงข้อสรุปเกี่ยวกับพรรคเล็ก โดยนายอุตตม ก็ปฏิเสธตอบคำถามผู้สื่อข่าว และเดินขึ้นรถออกจากพรรคทันที