ย้อนมติมหาเถรสมาคม ย้ำชัด "พื้นที่วัดห้ามนำสัตว์มาปล่อย"

สิ่งแวดล้อม
4 ต.ค. 62
17:22
1,009
Logo Thai PBS
ย้อนมติมหาเถรสมาคม ย้ำชัด "พื้นที่วัดห้ามนำสัตว์มาปล่อย"
ย้อนมติเถรสมาคม ออก 3 มาตรการ ห้ามนำสัตว์มาปล่อย ห้ามซื้อ-ขาย ชีวิตสัตว์ในเขตวัด และให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า อย่างเคร่งครัด

จากกรณีที่พบการจับนกกระจอกใส่ถุงพลาสติกขายในตลาดเช้า จ.กาฬสินธุ์ โดยแม่ค้าอ้างว่าเพื่อให้ประชาชนที่ใจบุญซื้อ เพื่อนำไปปล่อย ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้ตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ได้ร่วมแก้ปัญหาป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ โดยออกหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติ 3 ข้อ ดังนี้

  • ให้กำหนดพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามเจ้าของสัตว์ นำสัตว์มาปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร
  • ให้กำหนดเขตพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามซื้อขายหรือการทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าชีวิตสัตว์ภายในเขตวัด
  • ให้วัดต่าง ๆ ถือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัด สวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2553 และ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 โดยเคร่งครัด

ทั้งนี้ มติดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้ มติที่ 410/2561 เรื่อง การจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการปล่อยสัตว์ในวัดในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 19/2561 เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2561 เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทยได้มีหนังสือ ที่ ท.ปก.455 /61 ลงวันที่ 18 มิ.ย. 2561 แจ้งว่า สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นมากว่า 24 ปี เพื่อรณรงค์หาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการทารุณสัตว์โดยสันติวิธี ด้วยการดำเนินงาน ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และเสริมสร้างจิตสำนึกแห่งความเมตตาให้แก่สาธารณชนและเยาวชนโดยทั่วไป ให้มีในการสอดส่องป้องกันการทารุณสัตว์และมีบทบาทในการรณรงค์แก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิสัตว์ โดยเป็นผู้นำภาคประชาชนในการรณรงค์ผลักดัน พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง สะเทือนใจสายบุญ จับนกกระจอกใส่ถุงขายในตลาดเช้ากาฬสินธุ์

 

ชี้วัดเป็นเขตอภัยทาน-ห้ามนำสัตว์มาปล่อย-ขาย

เนื่องจากในพื้นที่เขตวัดได้กำหนดเป็นเขตอภัยทาน ตามคำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่องกำหนดเขตอภัยทานในพื้นที่วัด พ.ศ.2538 โดยกำหนดความมุ่งหมายเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์บก สัตว์น้ำ ตลอดถึงปักษีทวิชาติที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย โดยได้อาศัยความร่มเย็นเป็นสุขปราศจากการถูกเบียดเบียน หรือรบกวนด้วยประการใด ๆ

แต่ในปัจจุบันพบว่าพื้นที่วัดส่วนใหญ่ได้มีผู้นำสัตว์มาปล่อยละทิ้งเป็นจำนวนมาก ไม่ว่า สัตว์ป่า เช่น นก เต่า หมูป่า หรือจะเป็นสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและแมว ทำให้เกิดการแพร่กระจายขยายพันธุ์ของสัตว์นั้นเป็นจำนวนมาก บางครั้งอาจจะสร้างความเดือดร้อนรำคาญ เป็นภาระกับพระภิกษุ สามเณร ในการปฏิบัติศาสนกิจรวมถึงประชาชนในพื้นที่รอบข้าง อีกทั้ง บางพื้นที่บางวัดมีการจัดจำหน่ายทำธุรกิจการค้าชีวิตสัตว์เพื่อนำมาปล่อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเพราะส่วนใหญ่จะเป็นการทำลายวงจรชีวิตสัตว์ตามธรรมชาติและเป็นการทารุณสัตว์อันไม่สมควร

พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 มาตรา 23 กำหนดห้ามมิให้เจ้าของสัตว์ ปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำการใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแล ของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร มาตรา 32 กำหนดว่า เจ้าของไม่ปฏิบัติ หรือฝ่าฝืนมาตรา 23 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 16, 19, 20 ประกอบมาตรา 47 กำหนด ห้ามล่า ครอบครองและการค้า สัตว์ป่าคุ้มครอง ถ้าไม่ปฏิบัติหรือฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง