ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สุดซอยเปิดขบวนการส่วย กากพิษ 50,000 ตันซุกฉะเชิงเทรา

สิ่งแวดล้อม
18:39
171
สุดซอยเปิดขบวนการส่วย กากพิษ 50,000 ตันซุกฉะเชิงเทรา
"เอกนัฏ" สั่งทีมสุดซอยขยายผลคดีกากพิษ 50,000 ตันในฉะเชิงเทรา เจอโรงงานลักลอบฝังขยะพิษ พบหลักฐานส่วยนักการเมือง-ข้าราชการ ศูนย์กลางขบวนการสีเทา ชี้ครอบครัวเดียวกันเอี่ยว 2 โรงงาน สั่งสอบลึกดำเนินคดีเข้ม

วันนี้ (18 ก.ค.2568) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีและหัวหน้าชุดตรวจการณ์สุดซอย หรือ "ทีมสุดซอย" ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ผู้แทนมูลนิธิบูรณนิเวศ และเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา

ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท เค.เอส.ดี. รีไซเคิล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 83 หมู่ 7 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งประกอบกิจการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว การตรวจสอบครั้งนี้เป็นการขยายผลจากกรณีพบกากอุตสาหกรรมกว่า 50,000 ตันลักลอบฝังในพื้นที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ที่นายเอกนัฏเคยลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง

นายเอกนัฏ กล่าวว่า จากการขยายผลกรณีลักลอบฝังขยะอุตสาหกรรมจำนวนมากที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านใน อ.แปลงยาว พบความเชื่อมโยงมาถึงบริษัท เค.เอส.ดี. รีไซเคิล จำกัด ซึ่งเป็นของบุคคลในครอบครัวเดียวกัน จึงสั่งให้ทีมสุดซอยตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เพื่อสกัดขบวนการผิดกฎหมาย

น.ส.ฐิติภัสร์ ระบุว่า การตรวจสอบพบเครื่องจักรและกองกากอุตสาหกรรมทั้งบนดินและฝังใต้ดิน ลักษณะการประกอบกิจการคล้ายกับกรณีใน อ.แปลงยาว คือตั้งบริษัทรีไซเคิลเพื่อรับกำจัดกากอุตสาหกรรม แต่ไม่กำจัดตามกฎหมาย กลับกองเก็บและฝังกลบในที่ดินของตนเอง สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน

ที่น่าตกใจคือ พบว่าเจ้าของบริษัทนี้เป็นบิดาของเจ้าของที่ดินใน อ.แปลงยาว ซึ่งเคยพบขยะพิษเกือบ 50,000 ตันก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานบัญชีการจ่ายส่วยให้บุคคลต่าง ๆ รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ตำรวจท้องที่ และข้าราชการ ซึ่ง น.ส.ฐิติภัสร์ ย้ำว่าจะตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อหาความเชื่อมโยงกับเครือข่ายสีเทาอื่น ๆ ว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบฝังหรือขนย้ายกากอุตสาหกรรมหรือไม่

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีฐานประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเก็บตัวอย่างดินและน้ำในพื้นที่เพื่อวิเคราะห์ หากพบการปนเปื้อนที่เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย จะดำเนินคดีเพิ่มในข้อหาครอบครองวัตถุอันตราย น.ส.ฐิติภัสร์เน้นย้ำว่า การที่ครอบครัวเดียวกันประกอบกิจการผิดกฎหมายในลักษณะเดียวกันเป็นเรื่องน่าสงสัย ต้องเร่งสืบหาเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง และจัดการผู้ที่ปกป้องผู้กระทำผิด ทั้งนักการเมืองและข้าราชการ เพื่อป้องกันการเลียนแบบและกำจัดธุรกิจสีเทาให้หมดสิ้น

อ่านข่าวอื่น : 

ชาญชัย-หมอวรงค์ลั่น พิรุธใบเสร็จ ราชทัณฑ์ขัดแพทย์ ใกล้ปิดเกมทักษิณ

ทีมไทยแลนด์คาดสหรัฐฯ ลดภาษี "ไทย" ใกล้เคียงเวียดนาม