วันนี้ (14 พ.ย.2562) นางนันทนา บุญยานันต์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้ ร่วมกับเอกชนประกวดป่าชุมชน ระดับประเทศ ประจำปี 2562 ในโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” เพื่อสร้างจิตสำนึกด้วยแนวคิดการปลูกป่าในใจคน และขับเคลื่อนงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้รูปแบบ ของป่าชุมชน โดยปีนี้ป่าชุมชนบ้านปี้ จ.พะเยา ได้รับรางวัลป่าชุมชนชนะเลิศ ระดับประ เทศ พร้อมรับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และป่าชุมชน บ้านแม่ขมิง จ.แพร่ ได้รับรางวัลชนะเลิศป่าชุมชนดีเด่น ด้าน “ป่าชุมชน: สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา”
นางนันทนา กล่าวว่า รัฐบาลมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าให้ถึง 128 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของประเทศ ดังนั้นป่าชุมชนจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ตามเป้าหมาย เป็นเกราะป้องกันการบุกรุกทำลายป่าไม้ และช่วยป้องกันไฟป่าและแก้ไขหาปัญหาหมอกควัน เพราะป่าชุมชนมีกระบวนการบริหารจัดการป่าอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75M2979wfSFsNuUytuOYDi80hDj.jpg)
ป่าชุมชนเพิ่ม 15,535 แห่ง
สำหรับโครงการคนรักษ์ป่า ป่าชุมชน ที่ภาครัฐได้ร่วมกับเอกชนดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 11 ปี ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เห็นได้จากจำนวนชุมชนที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้นทุกปี เช่นเดียวกับชุมชนที่ขออนุมัติ จัดทำโครงการป่าชุมชนจากกรมป่าไม้ ทั้งจำนวนชุมชน และขนาดพื้นที่ป่าชุมชน ซึ่งการมีส่วนร่วมของเอกชนนี้ช่วยให้ดำเนินงานของกรมป่าไม้ขยายผลได้รวดเร็วขึ้น
ป่าชุมชนที่ขึ้นทะเบียนกับกรมป่าไม้ เพิ่มเป็น 15,535 ป่าชุมชน พื้นที่ป่า 7.3 ล้านไร่ กรมป่าไม้ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มป่าชุมชนให้ถึง 10 ล้านไร่ภายใน 5 ปี โดยมั่นใจว่าพื้นที่ป่าชุมชนจะคงอยู่ยั่งยืนด้วยพลังของชุมชน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75M2979wfSFsNuQeFpmPFKaPpac.png)
ป่าชุมชนเกาะป้องกันไฟป่า
นายทอน ใจดี ประธานป่าชุมชนบ้านปี้ จ.พะเยา และประธานเครือข่ายป่าชุมชน จ.พะเยา กล่าวว่า ป่าชุมชนในจ.พะเยา มีจำนวน 135 ป่าชุมชน ทั้งหมดเริ่มต้นมาจากการตระหนักถึงความเสื่อมโทรมของทรัพยากร ป่าไม้ที่เกิดขึ้น จึงต้องสร้างเครือข่าย และตั้งป่าชุมชนขึ้นในพื้นที่เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติและศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาป่าอย่างยั่งยืนและเพิ่มประโยชน์
เมื่อย้อน 7-8 ปีก่อนในพื้นที่ จ.พะเยา มีป่าชุมชนเพียง 35 ป่าชุมชน และแต่ละพื้นที่ยังมีความแตกต่างของป่าอีกทั้งบางพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75M2979wfSFsNuSxYwGfZReggEl.jpg)
ทั้งนี้ ป่าชุมชนบ้านปี้ เป็นป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง โดยช่วงปี 2561 ขอขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุมชนเพิ่มจาก 650 ไร่เป็น 945 ไร่ เช่นเดียวกับเครือข่ายป่าชุมชนในพื้นที่ จ.พะเยา ที่จะพยายามขอต่ออายุป่าชุมชนเพิ่มเติมให้ได้ 100 พื้นที่ภายในปีนี้
นายทอน กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่จ.พะเยา เริ่มประสบปัญหาระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ และรุนแรงเพิ่มขึ้นในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และเพื่อลดสถานการณ์ดังกล่าว ในป่าชุมชนแต่ละพื้นที่ จึงต้องสร้างฝายชะลอน้ำ เส้นทางการศึกษาทางธรรมชาติ เพื่อเป็นเส้นทางศึกษาระบบนิเวศน์ และเป็นเส้นทางลาดตระเวนและตรวจการณ์
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75M2979wfSFsNuK8qksHiLTGjVE.jpg)
จากผู้บุกรุกเป็นผู้ฟื้นคืนป่า
เช่นเดียวกับป่าชุมชนบ้านปี้ที่อยู่ระหว่างการเพิ่มความยาวของเส้นทางศึกษาทางธรรมชาติให้ได้อีก 1,645 เมตร ซึ่งในเส้นทางจะมีบ่อพักน้ำเปรียบเป็นระบบประปาภูเขาป้องกันไม่ให้ไฟป่าเกิดขึ้น รวมถึงเร่งสร้างเครือข่ายดำเนินงาน ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ไปยังชุมชนผ่านเสียงตามสาย
จุดเด่นของป่าชุมชนบ้านปี้ เพราะชุมชนเข้มแข็ง และป่ามีความอุดมสมบูรณ์หลากหลาย กลายเป็นป่าพื้นบ้าน แหล่งอาหารชุมชน คนได้ประโยชน์จากป่า ซึ่งมีผลวิจัยระบุว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายชุมชนจำนวนมาก
ขณะเดียวกันแหล่งน้ำที่เกิดขึ้น ยังช่วยด้านเกษตรกรรมทั้งการปลูกข้าว และพืชไร่ของชาวบ้านได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนที่เกิดขึ้นจากทุกภาคส่วน ทั้งนี้ รู้สึกยินดีและภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานครั้งนี้
ถือเป็นสัญญลักษณ์แห่งร่องรอยความทรงจำ อดีตที่มีแต่การแผ้วถางบุกรุก จนพลิกฟื้นกลับมาเป็นป่าที่สมบูรณ์ได้จากความร่วมมือกัน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75M2979wfSFsNuAkdHlzZofMVOo.jpg)
![](https://news.thaipbs.or.th/media/BRpLwT0TYaGXOF4tXhaNNF1tGRMrkku0Qx7up8mECvvrv.jpg)