วันนี้ (22 ก.ค.63) เป็นมติ ศบค.แล้ว ที่จะเสนอต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในเดือน ส.ค.นี้ โดย พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา อ้างอิงว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเครื่องมือเพียงอย่างเดียวที่จะประกันได้ถึงการอนุญาต หรือ ผ่อนคลายจะถูกชั่งน้ำหนักด้วยความปลอดภัยทางด้านสาธาณสุขและจะเป็นเหตุผลเดียวโดยบริสุทธิ์ใจ คือการควบคุมโรคเพราะจะไม่บังคับใช้ ม.9 โดยเฉพาะการห้ามชุมนุม-มั่วสุม จะไม่ปรากฏอยู่ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่จะต่ออายุ
จนถึงขณะนี้ สภาผู้แทนราษฎรยังคงอภิปรายแสดงความคิดเห็นเพื่อพิจารณาญัตติด่วน 6 ญัตติ ซึ่ง ส.ส.หลายพรรคการเมืองเสนอให้เปิดเปิดเวที หรือตั้งกรรมาธิการฯ เพื่อรับฟังความคิด ความเห็นของนักเรียน นักศึกษา ซึ่งการอภิปรายส่วนหนึ่งก็หยิบยกเหตุการณ์ในอดีต ทั้ง 14 ต.ค.16, 6 ต.ค.19 และ พ.ค.35 มาชี้ว่านำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในสังคมดังนั้นควรให้ความสนใจและให้ความสำคัญ
ทั้งนี้ยังอภิปรายตั้งประเด็นทั้งรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย การปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติที่ไม่คืบหน้า จึงอยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเดินสายรับฟังความเห็นนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยเหมือนที่เดินสายรับฟังความเห็นสื่อมวลชน เชื่อว่าจะทำให้บรรยากาศทางการเมืองจะดีขึ้น รวมถึงการอภิปรายถึงการชุมนุมที่กำลังเกิดขึ้นคือสิ่งตอกย้ำว่าต้องรับฟังความเห็น เพื่อไม่ให้นักเรียน-นักศึกษาตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง
ถ้าประเมินจากการอภิปรายจะเห็นว่า ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยส่วนหนึ่ง ไม่สนับสนุนให้ตั้งกรรมาธิการฯ แต่ควรส่งเรื่องให้ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดรับฟังความเห็นโดยตรงและเปิดให้มีการชุมนุมโดยอิสระ
ขณะที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ สนับสนุนให้ตั้งกรรมาธิการฯ ท้ายที่สุดจึงขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมที่จะชี้ขาด ท่ามกลางการจับตามองว่า ส.ส.พรรครัฐบาลจะโหวตชนะหรือไม่