วันนี้ (27 ส.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์เพื่อแสดงจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจากถูกตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมฝ่ายค้าน คือ เสนอตั้ง ส.ส.ร.แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2 รวมถึงแก้ไขวิธีแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ก่อน ขณะที่พรรคก้าวไกลแยกญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอให้ ส.ส.ร.แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยไม่มีข้อจำกัด และเสนอยกเลิกอำนาจ ส.ว. โดยเฉพาะกรณีให้อำนาจ ส.ว.ร่วมโหวตเลือกนายกฯ
ต่อมา คณะประชาชนปลดแอก โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยมีนัยยะเสียดสีจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย ภายหลังพรรคเพื่อไทยมีมติไม่ร่วมลงชื่อในญัตติของพรรคก้าวไกล ระบุว่า “พรรคเพื่อไทย ไม่ปิดสวิทช์ ส.ว.” และเขียนว่า “เพื่อไทยหรือเพื่อใคร ? ทำไมไม่ฟังเสียงประชาชน”
ล่าสุด พรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 8 ข้อ โดยเปิดเผยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งมีการหารือกันตั้งแต่กลางปี 2562 และต่อมาได้เสนอหลักการดังกล่าวกับ กมธ.พิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จนเป็นมติของที่ กมธ.ฯ โดยเน้นย้ำว่าการตัดอำนาจ ส.ว.อยู่ในวิสัยของพรรคเพื่อไทย แต่จะดำเนินการต่อไปในเวลาที่เหมาะสม และ “ไม่ใช่สนองความต้องการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริง” ซึ่งเขียนไว้ชัดเจนใน ข้อ 8 ดังนี้
“8. การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในประเด็นอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น โดยเฉพาะเรื่องอำนาจของสมาชิกวุฒิสภา ที่มาของวุฒิสภา และมาตรา 279 นั้น ล้วนแต่อยู่ในวิสัยที่จะร่วมปรึกษาหารือ และสร้างความเห็นพ้องร่วมกันต่อไปในห้วงเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่การสนองความต้องการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริง และปัจจัยเกื้อหนุนที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ”
ทั้งนี้ ภายหลังพรรคเพื่อไทยเผยแพร่แถลงการณ์ มีบุคคลเข้ามาแสดงความคิดเห็นผ่านหน้าเพจเฟซบุ๊กเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับท่าทีของพรรคเพื่อไทย เพราะเห็นว่าแนวทางของพรรคเพื่อไทยอาจจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ
