วันนี้ (9 ต.ค.2563) พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองเสนาธิการทหารบก และโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากกรณีทวิตเตอร์ได้รายงานการระงับบัญชีผู้ใช้ แพลตฟอร์มในประเทศไทย ว่า มีความเชื่อมโยงกับการปฏิบัติด้านข้อมูลข่าวสารว่า รายงานดังกล่าว ต้องตรวจสอบข้อมูลกับทางทวิตเตอร์ก่อน ต้องดูในรายละเอียดด้วย
แต่จากที่เห็นตามข่าวที่มีการเผยแพร่ขณะนี้ เป็นไปในลักษณะ การเชื่อมโยงข้อมูลจากบัญชีผู้ใช้ ซึ่งไม่สามารถระบุตัวตนได้ แล้ววิเคราะห์สรุปว่า มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพบกนั้น น่าจะเป็นข้อสรุปที่ไม่เป็นธรรมกับกองทัพบก
การประมวลผลภาพรวมที่ขาดการวิเคราะห์เชิงลึก ด้วยบัญชีผู้ใช้ที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และไม่ได้มาจากบัญชีที่เป็นทางการของกองทัพบก
ประกอบกับเป็นข้อมูลที่เน้นเรื่อง จำนวน, ความถี่, การแฮชแทคต่างๆ ที่บุคคลทั่วไป สามารถกระทำในลักษณะดังกล่าวได้โดยอิสระ
สำหรับกองทัพบกเองมีการใช้งานทวิตเตอร์เพื่อการสื่อสาร สร้างการรับรู้ ระหว่างกองทัพบกกับสาธารณะ และกับกำลังพลภายในองค์กร เป็นทวีตเตอร์ในนามหน่วยงาน ทั้งในส่วนกลางและโดยหน่วยทหารที่จัดทำขึ้นเอง
ซึ่งข้อมูลที่ถูกนำเข้าในระบบเป็นความจริง เป็นการสื่อสารที่เป็นประโยชน์กับประชาชน เช่น การบรรเทา สาธารณภัย และการบริการภาครัฐ ความคืบหน้าในภารกิจต่างๆ ของกองทัพบก ซึ่งสามาถติดตามหรือเข้าไปรับชมได้ในทวิตเตอร์ ชื่อบัญชี “ @armypr_news” ซึ่งผู้ที่ติดตาม จะทราบว่า เป็นข้อมูลเชิงสร้างสรรค์
ส่วนคนที่ยังไม่เคยเขามาเยี่ยมชม สามารถเข้าไปติดตามและตรวจสอบข้อมูลได้ รวมถึงในแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่างเป็นทางการของกองทัพบกด้วย เช่น เพจเฟสบุ๊ค “ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก” , เว็บไซต์ www.rta.mi.th, Official line “กองทัพบก”
อย่างไรก็ตามขอเรียนว่า เรื่องการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ยืนยันไม่ได้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เพราะไม่ใช่ภารกิจหรือวัตถุประสงค์ในการใช้แพลตฟอร์มทวิตเตอร์ของกองทัพบก