นายกฯ ชี้จำเป็นต้องใช้กฎหมายทุกฉบับคุมม็อบ

วันนี้ (20 พ.ย.2563) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุก่อนการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 27 ผ่านระบบการประชุมทางไกลที่ทำเนียบรัฐบาล กรณีนายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎรออกมาเปิดเผยกระแสข่าวนายกรัฐมนตรีจะลาออกก่อนวันที่ 25 พ.ย.นี้ว่า ต้องถามคนที่ออกมาพูด เพราะไม่เคยติดต่อกัน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเนื่ิองจากจะมีการชุมนุมในวันที่ 25 พ.ย. ดังนั้น การออกมาพูดในประเด็นนี้อาจจะหวังผลระดมมวลชนให้มากขึ้นหรือไม่ พร้อมฝากให้สังคมพิจารณาว่าคนที่ออกมาพูดโดยไม่ได้มีข้อมูลรองรับยังจะน่าเชื่อถืออยู่หรือไม่

แนะผู้ชุมนุมให้กลับเข้าสู่เส้นทางปกติ

นายกรัฐมนตรีย้ำถึงแถลงการบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับควบคุมสถานการณ์การชุมนุมว่า ที่ผ่านมามีการอะลุ่มอล่วย แต่ปัจจุบันการชุมนุมเกินเลยไปมาก และเนื่ิองจากมีประชาชนจำนวนมากรับไม่ได้ และแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษจำนวนมาก ซึ่งหากใครคิดว่าไม่ได้ทำความผิดก็ไม่น่าเดือดร้อน

ทั้งนี้ ขอฝากไปยังผู้ชุมนุมให้กลับเข้าสู่เส้นทางปกติ เพราะขณะนี้ประเทศบ้านเมืองกำลังเดินหน้า ในการดูแลเศรษฐกิจระดับฐานราก อย่างเช่นนโยบายคนละครึ่ง ก็ได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งจะเดินหน้าต่อไปในเฟส 3 ช่วงต้นปีหน้า พร้อมย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับผู้มีรายได้น้อย และผู้ค้าขายรายย่อย จึงทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์จำนวนมาก

นายกฯ รับไม่ได้ชุมนุมละเมิดสถาบันฯ

ส่วนการบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้ชุมนุมจะครอบคลุมไปถึงการนำมาตรา 112 มาบังคับใช้ด้วยหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีย้ำว่า เป็นการใช้กฎหมายทุกฉบับ และเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดำเนินการ เนื่องจากเป็นไปตามข้อคิดเห็นของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ มองว่าควรจะพูดถึงบุคคล และเยาวชนที่ไปช่วยล้างสีถนน และสถานที่ต่างๆ ที่เกิดจากการชุมนุม ซึ่งควรจะให้ความสำคัญกับคนที่ไปช่วยทำความสะอาดเหล่านี้มากกว่าคนที่ก่อความไม่สงบเรียบร้อยและกระทำความผิดละเมิดสถาบัน พร้อมย้ำว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นมีการทำลาย สิ่งของทางราชการ และละเมิดสถาบันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น จึงเป็นคนหนึ่งที่ยอมรับไม่ได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

โต้ปม "นายกรัฐมนตรี" จะลาออก-ปารีณา แจ้งเอาผิด "อานนท์"

จ่อออกหมายเรียก 31 ผู้ต้องหาคดีชุมนุมหน้า "รัฐสภา - สตช." 

"พิธา" ชี้นายกฯ ผิดพลาดใช้กฎหมายเข้มคุมม็อบ