วันนี้ (31 ธ.ค.2563) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ COVID-19 กล่าวถึงกรณีต่างชาติมีการฉีดวัคซีน COVID-19 แต่กลับตรวจพบติดเชื้อ โดยระบุว่า ตามหลักการของวัคซีน มีการนำเชื้อที่ก่อโรคไปทำให้อ่อนแรง หรือตาย หรือนำชิ้นส่วนเชื้อโรคไปฉีดให้คนที่ยังไม่ป่วย เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทาน เพื่อให้สร้างภูมิต่อต้านเชื้อโรค โดยใช้เวลา 2-4 สัปดาห์ วัคซีนบางชนิดต้องได้รับเข็มที่ 2
สำหรับกรณีที่เป็นข่าวต่างประเทศ พบคนฉีดวัคซีน 8 วัน แล้วตรวจพบติดเชื้อ ไม่ได้แปลว่า วัคซีนไม่ได้ผล แต่แปลว่า เขาได้รับเชื้อ COVID-19 ก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ภูมิคุ้มกันยังไม่สามารถป้องกันได้เต็มที่หรือยังไม่ทำงาน
ทั้งนี้ แม้ฉีดวัคซีนแล้ว แต่วัคซีนแต่ละชนิด สามารถป้องกันได้เพียง 90% 70% หรือ 75% ไม่ได้ป้องกัน 100% ดังนั้น แม้จะมีวัคซีนแล้ว ประชาชนก็ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน COVID-19 เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือต่อไป
ย้ำคนไทยเดินทางข้ามจังหวัดได้ ไม่ต้องกักตัว
ส่วนการเดินทางข้ามจังหวัด ห้ามเดินทางเฉพาะแรงงานข้ามชาติเท่านั้น คนไทยยังเดินทางได้ โดยไม่ต้องกักตัว แต่ขอให้สวมหน้ากากอนามัย 100% และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน COVID-19 ถ้าเดินทางโดยรถส่วนบุคคลได้ก็จะเป็นการดี อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขขอความร่วมมืองดเดินทางข้ามจังหวัด เพื่อป้องกันการแพร่ะบาดของโรค
รอบปี 2563 ที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าชาวโลกประสบกับปีที่ไม่ปกติ ต้องขอบคุณคนไทยทุกคนที่ร่วมมือกันปฏิบัติตามคำแนะนำ พบว่า ประชาชนสวมหน้ากาก 90% และลดการเดินทางอย่างมีนัยยะด้วย ผมเชื่อว่าสิ่งนี้จะทำให้เราผ่านไปด้วยกันได้ ฝากให้ช่วยบันทึกการเดินทางส่วนบุคคล หากพบบ่อนการพนันหรือแรงงานผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ด้วย