โรงแรมขนาด 3,500 ห้อง ชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี รายได้เป็นศูนย์ครั้งแรก ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ผู้บริหารโรงแรม ระบุว่า การระบาดของโควิด-19 ทั้ง 2 ระลอกส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมอย่างมาก ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพัก เพราะความกังวลการแพร่ระบาด
ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ยังไม่สามารถเดินทางมาได้ ทำให้โรงแรมต้องปรับอาคารด้านหน้าเป็นสถานที่กักตัวของรัฐ หรือ SQ เพื่อให้มีรายได้ดูแลพนักงาน ซึ่งเหลืออยู่ 650 คน จากเดิมกว่า 1 พันคน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
โรงแรมจึงพยายามจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว แต่ต้องมีอัตราการเข้าพักอย่างน้อย 500 ห้อง จึงจะคุ้มต้นทุนจนเปิดบริการได้ เนื่องจากเป็นโรงแรมขนาดใหญ่
โดยเกือบ 1 ปี ที่ผ่านมีผู้กักตัว 4,200 คน และไม่พบผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด แต่การจ่ายเงินที่ล่าช้า ของภาครัฐ ทำให้โรงแรมไม่สามารถแบกภาระได้ จึงต้องออกจากโครงการและปรับมาเป็น ALQ ซึ่งผู้กักตัวจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง โดยแพคเกจจะอยู่ที่ 40,000-50,000 บาท เพื่อให้โรงแรมมีรายได้พอที่จะให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ โดยหวังว่าการเริ่มฉีดวัคซีนจะทำให้การท่องเที่ยวกลับมาปกติโดยเร็ว
พนักงานโรงแรม ระบุว่า ได้รับผลกระทบจากการที่โรงแรมถูกสั่งปิดชั่วคราวตามคำสั่งของจังหวัด ต้องรับเงินจากประกันสังคมไปก่อน และเชื่อว่า หากมีการฉีดวัคซีนจะทำให้นักท่องเที่ยวกลับมา ขณะเดียวกันก็ทำให้พนักงานมีความมั่นใจในการให้บริการลูกค้ามากขึ้น
รายได้จากธุรกิจโรงแรมที่หายไป ทำให้โรงแรมพยายามหารายได้จากช่องทางอื่นๆ มาเสริม เช่น การผลิตน้ำดื่มจำหน่าย การเลี้ยงปลา การปลูกผัก ซึ่งพนักงานหลายคนต้องปรับเปลี่ยนหน้าที่ชั่วคราวระหว่างนักท่องเที่ยวยังไม่กลับมา
ทั้งนี้ คาดว่า โรงแรมจะกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง ในวันที่ 20 มีนาคมนี้ หลังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี สั่งปิดกิจการมาตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา
ขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมแผนเสนอขอโควตาวัคซีนจำนวน 5 หมื่นโดส ไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำไปจะฉีดให้กับผู้ที่ทำงานในโรงแรม และธุรกิจท่องเที่ยว ในพื้นที่ 5 จังหวัดท่องเที่ยวที่พึ่งพารายได้จากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งรวมถึงชลบุรีด้วย โดยจะฉีดในกลุ่มโรงแรมที่ยื่นขอเป็นพื้นที่การกักตัว ซึ่งปัจจุบันเป็นโรงแรมที่เป็น ALQ อยู่แล้ว