วันนี้ (16 มิ.ย.2564) พรรคเพื่อไทย เสวนาจุดยืนแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์พรรคเพื่อไทย ระบุความจำเป็นที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการการเมืองพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ที่มาของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 สืบเนื่องจากการรัฐประหาร และไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริง
พร้อมสะท้อนปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ใน 5 ประเด็น คือ ระบบการเลือกตั้งแบบบัตรเลือกตั้งใบเดียว ,บทบาทและอำนาจของสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.,การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติที่คิดล่วงหน้า 20 ปี ยาวนานเกินไปไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกควรจะถอดออกไป
การสร้างเงื่อนไขเรื่องสิทธิเสรีภาพกระทบต่อประชาชน เช่น สิทธิในการชุมนุมทางการเมือง และการทำให้รัฐธรรมนูญแก้ไขยาก ซึ่งเห็นด้วยต่อการใช้กลไก ส.ส.ร.มายกร่าง ให้ประชาชนมีส่วนร่วม และที่สำคัญต้องเพิ่มบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญปิดช่องการรัฐประหาร
การเมืองต้องแก้ด้วยการเมืองและประชาชน ไม่เคยเห็นว่าการรัฐประหารจะทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองได้
ส่วน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นปัญหาของชาติที่ต้องแก้ไขบทบัญญัติที่ผิดต่อครรลองประชาธิปไตย เช่น ประเด็นที่มานายกรัฐมนตรี ซึ่งผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้
ปัญหาระบบเลือกตั้งบัตรใบเดียว ที่ทำให้พรรคใหญ่ถูกลดทอนจำนวน ส.ส. ที่มาของ ส.ว.ที่ไม่ได้มาจากคณะกรรมการคัดสรรที่เป็นกลาง อย่างแท้จริง หากปล่อยให้รัฐธรรมนูญเป็นเช่นนี้ ประเทศจะถอยหลัง และถ้าในอนาคตเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง เช่น ยุบสภาโดยยังไม่แก้รัฐธรรมนูญทุกอย่างก็จะเป็นแบบเดิม และได้นายกรัฐมนตรีด้วยรูปแบบเดิม
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ชี้ว่า กลยุทธ์แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเกมช่วงชิงจังหวะโอกาส ให้ได้มาซึ่งอำนาจและผลประโยชน์มาทุกยุคทุกสมัย และมีการสับขาหลอก เช่น การประชุมแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าสุดที่ถูกสภาตีตกไป ดังนั้น ส.ส.ฝ่ายค้านต้องตามให้ทันเกม
พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลฉลาดมาก และช่วงชิงจังหวะให้พรรคพลังประชารัฐรีบยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเกมหลายชั้นที่ต้องจับตามอง เช่น การเสนอระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ
นับเป็นเกมที่เปิดขึ้นมาให้พรรคร่วมรัฐบาลระส่ำ แต่สุดท้ายเชื่อว่า จะสับขาหลอกคงระบบเลือกตั้งบัตรใบเดียวเหมือนเดิม และขอย้ำว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้เสนอยื่นประเด็นนี้เหมือนพรรคพลังประชารัฐ เพราะตกผลึกเป็นจุดยืนเดิมมานานแล้ว
ทั้งนี้มองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องคำนึงถึงความเป็นได้ และวางกรอบไว้ 2 ขั้น คือในระยะยาวแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ตั้ง ส.ส.ร.มายกร่างแก้ไขทั้งฉบับ และต้องแก้ไขเฉพาะหน้ารายมาตราควบคู่ไปด้วย เพราะบางเรื่องรอไม่ได้ เช่น การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน และที่มานายกรัฐมนตรี เพราะการเมืองไทยยังคาดเดา หรือ ไว้ใจไม่ได้
ทั้งนี้หากนายกรัฐมนตรีไม่อยู่ครบเทอม และตัดสินใจยุบสภา การเมืองก็เข้าสู่รูปแบบเดิม และนำไปสู่การต่ออำนาจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา