วันนี้ (23 ก.ค.2564) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ไทยผู้ติดเชื้อเพิ่ม 14,575 คน แบ่งเป็นการติดเชื้อใหม่ 13,503 คน ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 1,072 คน รวมป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 438,844 คน หายป่วยเพิ่ม 7,775 คน รวมหายป่วยสะสม 292,726 คน (ตั้งแต่ 1 เม.ย.) โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 114 คน ทำให้มียอดสะสมอยู่ที่ 3,717 คน
นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ 143,744 คน อาการหนัก 3,984 คน ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 900 คน
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดจำนวน 467,707 คน หายป่วยสะสม 320,152 คน และมีผู้เสียชีวิตสะสม 3,811 คน
ขณะที่วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตที่บ้าน 3 คน ห้องฉุกเฉิน 1 คน และมี 47 คน ที่เสียชีวิตไม่เกิน 6 วันหลังทราบผลติดเชื้อ คิดเป็น 41% สำหรับกลุ่มความเสี่ยงยังเป็นการสัมผัสติดเชื้อในครอบครัว
สำหรับจำนวนผู้ได้รับวัคซีนวันที่ 22 ก.ค. 2564 จำนวน 304,243 โดส เข็มที่ 1 จำนวน 266,314 คน เข็มที่ 2 จำนวน 37,929 คน
ผู้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-22 ก.ค. 2564 จำนวน 15,388,939 โดส ในพื้นที่ 77 จังหวัด เข็มที่ 1 จำนวน 11,805,180 คน เข็มที่ 2 จำนวน 3,583,759 คน
"ไฟเซอร์" ที่ได้รับบริจาคกระจายฉีดให้ 4 กลุ่ม
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า วัคซีน "ไฟเซอร์" ที่ได้รับบริจาคจากต่างประเทศ มีแผนการกระจาย 4 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 บุคลากรทางการแพทย์ ฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 บูสเตอร์โดส เป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน กลุ่มที่ 2 ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป กลุ่มที่ 3 ชาวต่างชาติ เน้นผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และกลุ่มที่ 4 คนไทยที่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ คือ นักเรียน นักศึกษา นักกีฬา และนักการทูต สามารถติดต่อลงทะเบียนการฉีดได้ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนและสุขภาพบางรัก และสถาบันบำราศนราดูร ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังสำรวจจำนวนและจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในต่างจังหวัดกราฟค่อนข้างสูงชัน และจากรายงานของกรมควบคุมโรควันนี้ หลายจังหวัดโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นการรายงานผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจาก กทม. และปริมณฑล จนเกิดการสัมผัสติดเชื้อในครอบครัว ชุมชน เพื่อนฝูง เช่น อุบลราชธานี สระบุรี ตราด ขอนแก่น อุตรดิตถ์ สระแก้ว สุราษฎร์ธานี
ขณะที่วันนี้ ศปม. รายงานว่าหลังจากที่มีการประกาศใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 พบว่า มีประชาชนเดินทางข้ามพื้นที่เกิน 100,000 คน
ส่วนที่กรุงเทพฯ พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 3,104 คน ยังไม่รวมตรวจแบบ Antigen Test Kit โดยใน 1-2 วันนี้ กทม.จะรวบรวมตัวเลขของการตรวจทั้งหมดมารายงาน
นอกจากนี้ จากการที่ กรุงเทพฯ ตรวจเชิงรุก 100 คน จะพบผู้ติดเชื้อสูงถึง 11 % ผู้ที่มีประวัติเป็นผู้สัมผัส พบผลตรวจติดเชื้อ 15 % ส่วนผู้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ (PUI) จะกลายเป็นผู้ติดเชื้อถึง 25 %
กทม. กรมควบคุมโรค ยังคงสนับสนุนให้ทุกคนสำรวจตัวเอง และเข้าสู่ระบบการตรวจเพื่อที่จะได้ทราบว่าเป็นผู้ติดเชื้อ และเข้าสู่กระบวนการรักษาให้เร็วที่สุด
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนของการรับผู้ป่วยดูแล มีการรายงาน ของอนุฯ ด้านการรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่รอเตียงเพิ่ม 868 คน ขณะที่ กทม.ได้ปิดเคสสะสมนำผู้ป่วยเข้าไปสู่ระบบสำเร็จ 121,457 คน
ขณะที่วันนี้มีรายงานผู้ป่วยระดับความรุนแรงสีแดง 40 คน ซึ่งจะเร่งให้เข้าสู่โรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
ส่วนในอีก 1-2 วันนี้จะมีการนำเสนอแมปปิ้ง ผู้ป่วยที่อยู่ในระดับเขียว เหลือง แดง อยู่ที่เขตใดบ้างใน 50 เขตของ กทม.
ผู้ป่วยสีเขียวเข้าระบบดูแลตัวเองที่บ้าน
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า กลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ที่ไม่มีอาการระบบทางเดินหายใจ จากการศึกษาแนวทาง Home Isolation ของหลายหน่วยงาน พบว่า การรักษาด้วยการแยกกักที่บ้านได้ผลดี
ส่วนการใช้ Antigen test kit จากหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการตรวจที่ยืนยันผลติดเชื้อ สามารถติดต่อขอเข้าระบบ Home Isolation ได้ที่หมายเลข 1330 กด 14 ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหมายเลขสำนักงานเขตเพิ่มอีก 50 เขต เพื่อให้ประชาชนสามารถประสานการเข้าถึงการรักษา
สำหรับระบบนี้จะมีคลินิกอบอุ่น 161 แห่ง สำนักงานประกันสังคมอีก 69 ศูนย์ และโรงพยาบาลหลัก โดยผู้ป่วยจะได้รับกล่องรอดตายของ กทม. ซึ่งจะมีอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือ และจะเร่งพิจารณาจ่ายยาตามอาการโดยเร่งด่วน โดยไม่มีข้อห้ามในการจ่ายยา "ฟาวิพิราเวียร์"
พบ 4 คลัสเตอร์ใหม่ มากสุดโรงงานด้าย
ขณะที่วันนี้ มีรายงานการพบคลัสเตอร์ใหม่ 4 แห่ง ได้แก่ โรงงานอาหารกระป๋อง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ติดเชื้อ 20 คน, โรงงานด้าย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ติดเชื้อ 126 คน แคมป์ก่อสร้าง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ติดเชื้อ 26 คน, บริษัทผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ติดเชื้อ 37 คน
