ไอซ์ของกลางหาย? เปิดภาพ "มาวิน" ขณะทีม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ล่อซื้อ

ภาพนายจิระพงศ์ หรือมาวิน ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ถูกจับกุมพร้อมยาไอซ์ ในวันที่ 4 ส.ค.2564 โดยชุดจับกุมถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานการจับกุมและในภาพปรากฏมียาเสพติดเป็นไอซ์ 3 ถุง ถุงละ 100 กรัม น้ำหนักรวม 300 กรัม รวมทั้งภาพถ่ายเอกสารธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อด้วย

ภาพชุดนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่า ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือชุดสืบสวน 05 ล่อซื้อยาเสพติดจากนายจิระพงศ์จริง และมีภาพถ่ายเอกสารธนบัตรล่อซื้อเอาไว้ สอดคล้องกับข้อมูลจาก พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เปิดเผยการตรวจสอบทางคดีเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า พบบันทึกประจำวันเรื่องปฏิบัติการล่อซื้อยาเสพติด โดยลงเลขของธนบัตรล่อซื้อในบันทึกครบถ้วน

 

ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่า นอกจากบันทึกประจำวันการล่อซื้อ มีบันทึกการจับกุม หรือพบของกลางยาเสพติด ที่ตรวจยึดได้จากนายจิระพงศ์หรือไม่ พล.ต.อ.สุขาติ ตอบกลับว่า “พยายามหาอยู่ และยังไม่รู้ว่ามียาเสพติดหรือไม่ แต่มีการบันทึกประจำวันการล่อซื้อ พฤติการณ์ที่กล่าวอ้างว่า มีการล่อซื้อนั้น มีส่วนจริง ส่วนการปฏิบัติแล้วจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อย่างไร ก็ต้องดู แล้วพฤติกรรมในการล่อซื้อ บางคนก็กระทำโดยสุจริต เป็นการปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องแยกแยะ”

ขณะที่ความคืบหน้าทางการสอบสวน ขณะนี้พบว่าชุดสืบสวน 05 ที่ทำคดียาเสพติดมีประมาณ 13-15 คน พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างทยอยเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม

ตรวจมือถือยังไม่พบภาพยาบ้า 2 หมื่นเม็ด-ไอซ์ 1 กก.

ส่วนการตรวจสอบหลักฐานเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนนำโทรศัพท์มือถือของนายจิระพงศ์ มาตรวจสอบ และตรวจหาภาพถ่าย หรือคลิปวิดีโอภาพยาเสพติด ยาบ้า 20,000 เม็ด ยาไอซ์ 1 กิโลกรัม เพื่อยืนยันสถานะการเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ของนายจิระพงศ์ ตามคำกล่าวอ้างของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ แต่ขณะนี้ยังไม่พบภาพชุดดังกล่าวในโทรศัพท์ของนายจิระพงศ์

ส่วนผู้ที่ถูกจับไปแล้ว 7 นาย ต้องว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะผู้ต้องหาขณะสอบสวน จะแยกออกไปคนละส่วนกับคดีอาญา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยจะเป็นการพิจารณาความผิด "เป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ" ซึ่งคดีนี้จะถูกพิจารณาโดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6

สำหรับกระบวนการขั้นตอนสืบสวนสอบสวนในคดียาเสพติดนั้น ผู้ปฏิบัติหน้าที่จะต้องเป็นเจ้าพนักงานที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฏหมายว่าด้วยมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2542 ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)

 

ทีมข่าวสอบถามจากแหล่งข่าวตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดนายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่าในทางปฏิบัติจะต้องลงบันทึกประจำวันการล่อซื้อโดยสาระ คือ การลงเลขธนบัตรที่จะใช้ซื้อยาเสพติดจากเป้าหมาย หากการล่อซื้อสำเร็จจนสามารถควบคุมตัวผู้ค้าหรือผู้ต้องหาได้ ก็จะคุมตัวสอบสวนเพื่อขยายผลในทางคดี ซึ่งหมายถึงขยายผลไปยังกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด หรือเพื่อขยายติดตามหาของกลางเพื่อตรวจยึด

ในกระบวนการนี้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กำหนดเอาไว้ในมาตรา 15 มีสาระสำคัญ ว่า การจับกุมบุคคลใดที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เจ้าพนักงานซึ่งได้รับมอบหมายให้มีอำนาจจับกุม มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับพนักงานสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้ทั่วราชอาณาจักร

และให้มีอำนาจควบคุมผู้ถูกจับ ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเอาไว้เพื่อทำการสอบสวนได้เป็นเวลาไม่เกิน 3 วัน

เมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวหรือก่อนนั้นตามที่จะเห็นสมควรให้ส่งตัวผู้ถูกจับไปยังพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเพื่อดำเนินการต่อ โดยมิให้ถือว่า การควบคุมผู้ถูกจับดังกล่าวเป็นการควบคุมของพนักงานสอบสวนตามกระบวนการกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งตามกระบวนนี้พนักงานสอบสวนจะมีอำนาจควบคุมตัวไว้ได้ 48 ชั่วโมงเท่านั้น