เรือประมง 22 จังหวัด ร้องรัฐผ่อนผันเรือที่ยังไม่มีใบอนุญาตก่อนวันขีดเส้นตายดำเนินคดี 1 ก.ค. 
พรุ่งนี้ (30 มิ.ย.2558) เป็นวันสุดท้ายของการผ่อนปรนการจับกุมเรือประมงที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่มีอาชญาบัตร ตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุมของไอยูยู มีความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการประมงใน 22 จังหวัดที่ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการประมงอย่างถูกต้อง เตรียมนำเรือเข้าจอดเทียบท่าเนื่องจากเกรงถูกดำเนินคดี และพร้อมรวมตัวเพื่อขอให้รัฐบาลผ่อนผันหลังวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
นายกำจร มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร กล่าวถึงการที่ศูนย์ป้องกันการทำประมงที่ผิดกฎหมายไอยูยู ประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับเรือที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงกรณีตรวจสอบใบอาชญาบัตรเรือโดยไม่ผ่อนผันปลดล็อค ซึ่งหากดำเนินการเอาผิดจริงในวันที่ 1 กรกฎาคม จะส่งผลให้ในจังหวัดมีเรือใช้การไม่ได้และต้องหยุดจอดทิ้ง
นายอุบล ชลาลัย เจ้าของท่าเทียบเรือประมงชลาลัย อ.คลองใหญ่ จ.ตราด กล่าวว่าการที่รัฐบาลแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุม (ไอยูยู) โดยจะเริ่มจับกุมวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ หากเรือประมงยังไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง จะส่งผลกระทบกับเรือประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้านของ อ.คลองใหญ่กว่า 800 ลำ และยังมีธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น การแปรรูปปลา ปลาแห้ง ปลาป่น มีการจ้างแรงงานทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก
นายภูเบศ จันทนิมิ ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวว่าก่อนหน้านี้ได้เรียกร้องต่อที่ประชุมศูนย์ป้องกันการทำประมงที่ผิดกฎหมายไอยูยูที่มี พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้บัญชาการ เพื่อขอให้ขยายกรอบเวลาการผ่อนผันเรือประมงที่อาชญาบัตรยังไม่ครบถ้วนให้ออกไปทำการประมงจนกว่ากรมเจ้าท่าและกรมประมงจะสำรวจข้อมูลจำนวนเรือประมงให้เสร็จสิ้น
ดังนั้น หากยังต้องเดินตามโรดแมปเดิมคือไม่สามารถผ่อนผันเรือที่มีอาชญาบัตรไม่ครบถ้วนภายในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ คาดว่าจะเกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะประมง จ.สมุทรสาคร และ จ.สมุทรสงคราม ส่วนใหญ่เป็นเรือขนาดใหญ่ หากไม่สามารถออกเรือได้จะไม่มีวัตถุดิบป้อนโรงงานแปรรูปอาหารทะเล
นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่าตามที่สมาคมประมงต่างๆ เสนอให้หน่วยงานรัฐขยายกรอบเวลาการผ่อนผันเรือประมงที่มีปัญหาอาชญาบัตรนั้น ต้องรอมติที่ประชุมศูนย์ป้องกันการทำประมงที่ผิดกฎหมายไอยูยู หรือ ศปมผ. ซึ่งคาดว่าน่าจะประชุมไม่วันที่ 29 หรือ 30 มิถุนายน เพื่อออกประกาศก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม ตามกำหนดการเดิม เนื่องจาก ศปมผ.มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมเจ้าท่าไม่สามารถจัดทำข้อสรุปได้เพียงหน่วยงานเดียว