วันนี้ (3 ธ.ค.2564) สื่อมวลชนหลายสำนักต่างไปเฝ้ารอสัมภาษณ์มหาไพรวัลย์ วรรณบุตร หลังจากไปออกรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ซึ่งมหาไพรวัลย์ได้เปิดใจในหลายประเด็นดังนี้
Q: สาเหตุของการลาสิกขา
A: หลัก ๆ มี 2 เรื่องคือ เรื่องแรกก็รู้อยู่แล้วคือเรื่องความไม่สบายใจของเรากับอำนาจที่รู้สึกว่าไม่เป็นธรรมของคณะสงฆ์ ในเรื่องการแต่งตั้งเจ้าอาวาสเรา ผมรู้สึกว่าต่อให้ท่านได้หรือไม่ได้ ในฐานะที่ผมเป็นลูกศิษย์ที่รักครูบาอาจารย์มาก ผมไม่อยากให้ครูบาอาจารย์ต้องเดือดร้อนเพราะผม ผมออกมาดีกว่า อยู่ไปก็ไม่แล้วอยู่ดี เดี๋ยวต้องมีประเด็นอะไรนำความลำบากใจไปให้พระเดชพระคุณท่านอีก
พระอาจารย์ท่านเป็นพระดีมาก ขออนุญาตพูดถึงท่านเจ้าคุณอาจารย์พระราชปัญญาสุธี ท่านทำงานเพื่อคณะสงฆ์มานาน เป็นพระผู้ใหญ่ที่ดีมาก สุขุมรอบคอบ เราไม่อยากให้ท่านต้องมาถูกรังแก ถูกใช้อำนาจในทางที่ทำให้ท่านต้องคอยลำบากใจ เดือดร้อนใจ ออกมาดีกว่า เป็นลูกอย่าทำให้พ่อเดือดร้อน
ประเด็นที่ 2 วันนี้แม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกมะเร็ง ไม่รู้ว่าผลหลังการผ่าตัดจะเป็นอย่างไร ไหน ๆ จะสึกแล้วก็ออกมาวันนี้เลย ให้แม่ได้เห็นเรา ได้กำลังใจจากเรา วันนี้ไปหาที่โรงพยาบาล เคยบอกไว้ว่าอยากกอดแม่ วันนี้ก็ไม่ได้กอด เพราะว่าหมอห้าม หมอเตรียมผ่าตัดแล้วไม่ให้เข้าใกล้ ต้องเว้นระยะห่าง เลยอดไป ก่อนที่จะสึกแม่ก็โทรมาบอกว่า ขอให้อยู่ต่ออีกหน่อยได้ไหม แม่ยังอยากเห็นภาพมหาใส่จีวรอยู่ ผมก็บอกแม่ว่าผมตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว
Q: กำหนดลาสิกขาวันที่ 4 ธ.ค. ทำไมเปลี่ยนมาเป็นวันนี้
A: เพราะกลัวสื่อมวลชน เลยเลื่อนมาเป็นวันนี้ อยากลาสิกขาแบบเงียบ ๆ อยากให้มีแต่คนรู้จักกัน ไปสึกกับพระมหานภันต์ สนฺติภทฺโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
Q: วางแผนชีวิตต่อไปอย่างไร
A: คิดว่าจะใช้พื้นที่ ใช้ช่องทางที่เราพอมีในการทำมาหากิน เรามีเพจคนตาม 2 ล้านคน และทำงานสื่อมาระยะหนึ่ง บางรายการที่เคยทำกับพระมหาสมปอง เขาก็บอกว่าถึงสึกแล้วก็ยังจะเชิญอยู่ โดยให้ไปเป็นพิธีกรร่วมกับพระมหาสมปอง
Q: มีหลายฝ่ายจับตามองประเด็นเรื่องเงิน อยากชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร
A: ใครมีข้อมูลก็นำเสนอมาเลยนะ เดี๋ยวผมจะฟ้อง แล้วไปพิสูจน์กันในศาลว่ามีจริงหรือไม่มีจริงในเรื่องเงิน หาข้อมูลมาเลยที่บอกว่ารวยมีเป็น 100 ล้าน 300 ล้าน ไม่มีคับ อย่าว่าแต่ 300 ล้านเลย 4-5 ล้านก็ไปนานแล้วครับ
Q: รู้สึกอย่างไรกับวงการสงฆ์ในขณะนี้
A: ไม่เคยหมดศรัทธากับศาสนา แต่หมดศรัทธากับคณะสงฆ์ ผมยังเคารพศาสนา ยังเคารพครูบาอาจารย์ ยังจะนับถือศาสนาอยู่ ยึดถือคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่กับพระผู้ใหญ่บางรูปไม่ศรัทธาครับ
Q: มองสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอย่างไร
A: สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นองค์กรหนึ่งที่อยู่ได้โดยภาษีชาวพุทธ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำหน้าที่ตรวจสอบพระ ผมก็อยากให้ชาวพุทธทำหน้าที่ตรวจสอบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่าทำหน้าที่ถูกต้องหรือไม่ บางเรื่องใช้อำนาจเกินขอบเขตหรือไม่
เดี๋ยวนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำหน้าที่เป็นองค์กรทางการเมืองชัดเจนเลยครับ ประเด็นของผม ผมถูกตั้งคณะกรรมการสอบจากทางคณะสงฆ์ จากคนที่เป็นโจทย์ยื่นต่อผมคือ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คุณเป็นองค์กรด้านพระพุทธศาสนา แต่ทำหน้าที่คอยโจทย์พระ ฟ้องพระ จับพระสึก มันใช่หน้าที่หรือไม่
ผมจะเป็นหนึ่งในจำนวนของชาวพุทธหลายล้านคน ที่คอยออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
Q: เรื่องความไม่เป็นธรรมของเจ้าอาวาสจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
A: แล้วแต่เลยครับ เพราะผมออกมาแล้ว สุดท้ายท่านจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ท่าน เป็นเรื่องของทางสงฆ์
Q: โพสต์คำว่า "เริ่ม" ในเฟซบุ๊กหมายถึงอะไร
A: หมายถึงเริ่มการเป็นฆราวาสครับ ไม่ใช่ว่าเริ่มเรอจะไปเริ่มศึกกับใคร หลังจากนี้จะเป็นกระบอกเสียง ถ้ามีการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม มีคำสั่ง มีกฎหมาย จากสำนักงานพระพุทธศาสนาบ้าง จากมหาเถรสมาคมบ้าง ซึ่งผมก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของพุทธบริษัทในการสะท้อนได้ เตือนได้ ผมก็จะพูดว่าทำแบบนี้ไม่ดี อย่าแกล้งกันอะไรกัน
Q: ในอนาคตจะทำงานการเมืองหรือไม่
A: ผมเคยพูดไปแล้วครับว่า ผมไม่ลงการเมืองแน่นอน ผมสนใจเรื่องประเด็นความเป็นธรรมทางสังคม
Q: จะรับงานรีวิวหรือไม่
A: มีหลายแบรนด์ติดต่อมา ตอนนี้ก็ทำได้แล้ว แต่เรามีทีมพี่ที่ดูแลเรื่องกฎหมายอยู่ เขาก็จะดูให้ว่าอันไหนได้ อันไหนไม่ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจรับงานใด ๆ
Q: จะกลับมาบวชอีกหรือไม่
A: ไม่ครับ สังคมสงฆ์วุ่นวายกว่าฆราวาสอีก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สึกแล้ว "พระมหาไพรวัลย์" เริ่มชีวิตฆราวาสวันแรก
"พระมหาไพรวัลย์" ตอบ "ใช่" หลังหมอแล็บถาม "จะสึกแล้วหรอ"