พบคราบสีดำคล้ายน้ำมันขึ้นฝั่ง "หาดแม่รำพึง" ล้อมทุ่นกันเต็มพิกัด

วางทุ่นล้อมคราบน้ำมันใกล้ถึงฝั่ง "หาดแม่รำพึง" เริ่มพบร่องรอยคราบสีดำบนชายหาด คาดเป็นคราบน้ำมันดิบ ด้านทีมอาจารย์ธรณ์ ลงพื้นที่สุ่มตรวจสัตว์ทะเลหาดแม่รำพึง ห่วง 2 จุดเสี่ยงอ่าวมาบตาพุด 10 กม.และเกาะเสม็ด บ้านเพ อาจได้รับผลกระทบ

วันนี้ (28 ม.ค.2565) ความคืบหน้าในการเก็บกู้คราบน้ำมันรั่วในพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งใช้เวลาในการดำเนินการมาแล้ว 3 วันตั้งแต่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยกองทัพเรือ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระเร่งระดมฉีด Dispersant เพื่อสลายคราบน้ำมันกลางทะเล อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 4 กิโลเมตร เพื่อสกัดไม่ให้เข้าถึงริมหาดแม่รำพึง ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดระยอง

ล่าสุดเวลา 17:50 น.พบร่องรอยคราบสีดำปรากฏที่ริมหาดแม่รำพึง คาดว่าเป็นน้ำมันดิบที่ถูกคลื่นซัดเข้าชายฝั่ง ในขณะเดียวกันบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ได้ระดมเจ้าหน้าที่มาติดตั้งทุ่นดักน้ำมันหรือบูม บริเวณริมหาดแม่รำพึงบริเวณที่พบคราบสีดำ และเป็นจุดที่คาดว่าน้ำมันดิบจะเข้ามาถึงเป็นจุดแรก

โดยบูมมีความยาวประมาณ 500 เมตร นำไปลอยในทะเลใกล้กับชายฝั่ง เพื่อดัก และจำกัดพื้นที่คราบน้ำมันที่อาจลอยสู่ชายฝั่ง ก่อนใช้กระดาษซับน้ำมันแยกออกจากทะเล เนื่องจากพื้นที่ใกล้ชายฝั่งไม่สามารถใช้สารเคมีในการสลายได้ เพราะจะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และจะตกค้างในน้ำได้ เป็นอันตรายต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แจ้งว่าคราบน้ำมันดังกล่าว ติดมากับทุ่นที่เคยใช้ดักจับน้ำมัน ไปแล้วหลายครั้ง

ด้านนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ระบุว่า คราบน้ำมันส่วนใหญ่ เป็นแผ่นฟิล์มบาง ห่างจากฝั่ง 3-4 กิโลเมตร ส่วนที่เป็นคราบหนาอยู่ห่างออกไป 10 กิโลเมตร ซึ่งกลุ่มนี้ยังประเมินไม่ได้ว่าจะถึงหาดเมื่อใด ปัจจัยสำคัญคือกระแสลม

กระจายไปเยอะเป็นฟิล์มบางๆ ส่วนใหญ่ แต่ที่เยอะอยู่ในจุดที่เรือทำงานพยายามไม่ให้คราบน้ำมันเข้าฝั่ง ย่อยสลายให้ไวที่สุด แต่ในฝั่งเตรียมอุปกรณ์ที่จะคลีนชายฝั่งถ้ามาถึงจะเก็บกู้คราบน้ำมัน

สุ่มตรวจสัตว์ทะเลหาดแม่รำพึง-ห่วง 2 จุดเสี่ยง

ขณะที่นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ พร้อมทีม ลงพื้นที่สุ่มตรวจสัตว์ทะเล เช่น หอยเสียบ เพื่อใช้เปรียบเทียบกับอนาคตหากคราบน้ำมันพัดถึงฝั่ง ส่วนการใช้สาร Dispersant ยอมรับว่าว่ามีผลกระทบต่อระบบนิเวศ โดยเฉพาะปะการัง

พื้นที่ 2 จุดว่าเป็นพื้นที่ต้องเฝ้าระวังตั้งแต่หัวโค้งเลยไออาร์พีซี จนถึงก้นอ้าวมาบตาพุดยาว 10 เมตรและอีกจุดพื้นที่ช่วงเกาะเสม็ด-บ้านเพ แต่อาจจะกระทบน้อยกว่า แต่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเพราะทะเลเปลี่ยนได้

"จิสด้า" ประเมินคราบน้ำมันไม่เข้าฝั่ง

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (จิสด้า) วิเคราะห์การเคลื่อนที่ของคราบน้ำมัน หรือ ที่คุณผู้ชมเห็นเป็นจุดสีเขียว พบว่า ตั้งแต่เย็นวานนี้ ถึง 11.00น. ของวันนี้ บริเวณที่พบคราบน้ำมัน ไม่ได้ขยับจากเดิมมากนัก จิสด้ายืนยันว่า ยังไม่เข้าฝั่ง เพราะมีกระแสน้ำไหลออกมาจากฝั่ง แต่ลักษณะคราบน้ำมันเริ่มแตกตัวออกเป็นก้อนย่อย ไม่ได้อยู่ติดเป็นผืนเดียวกันแบบวันแรก

ขณะที่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ระบุว่า กรณีที่จิสด้า ระบุว่าพบน้ำมันพื้นที่ถึง 47 ตารางกิโลเมตร คาดว่าดาวเทียมน่าจะเก็บภาพกลุ่มน้ำมันที่ถูกสลายด้วย Dispersant ด้วย จึงต้องประเมินจากพื้นที่จริงควบคู่