วันนี้ (11 ม.ค.2565) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานว่า ที่ประชุมยังคงระดับสีของจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทยไว้ตามเดิม เพื่อตรึงมาตรการต่างๆ และขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันลดการติดเชื้อให้มากที่สุด เพราะหากตัวเลขผู้ติดเชื้อขยับเพิ่มสูงขึ้นเป็นหลายหมื่นคนต่อวัน อาจส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงได้
โดยเฉพาะในส่วนจังหวัดนำร่องท่องเที่ยวหรือจังหวัดโซนสีฟ้า ที่เปิดให้ขายสุราและดื่มสุรา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจพบว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมาจากพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว จึงขอให้ประชาชนในจังหวัดเหล่านี้ช่วยกันลดอัตราการติดเชื้อให้ได้
ไทยเตรียมบริจาค "วัคซีนโควิด" ไปยัง 6 ประเทศ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบแผนการรับบริจาควัคซีน การส่งวัคซีนแลกเปลี่ยนคืนให้ต่างประเทศ และแผนการบริจาควัคซีนให้แก่ต่างประเทศ โดยในเดือน มี.ค.นี้ ะมีการบริจาควัคซีนไฟเซอร์ จากฝรั่งเศส จำนวน 400,140 โดส ส่วนการให้คืนสิงคโปร์เป็นแอสตราเซเนกา จำนวน 122,400 โดส รอกำหนดวันขนส่ง และภูฎานอยู่ระหว่างการดำเนินการ
ส่วนการบริจาควัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทยให้ประเทศต่างๆ นอกจากเพื่อมนุษยธรรม ก็คือการให้กลุ่มประเทศแอฟริกาที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมาก และไม่มีกำลังซื้อเพียงพอ ซึ่งประเทศไทยได้ประสานไปยัง องค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อแจ้งความประสงค์บริจาคผ่านโครงการโคแวกซ์ ซึ่ง WHO ก็รับรองและให้ประเทศไทยส่งวัคซีนบริจาคไปให้ประเทศนั้น ๆ โดยตรง ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้
- วัคซีนแอสตราเซเนกา 500,000-1,000,000 โดส ให้เมียนมา
- วัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 300,000 โดส ให้ลาว
- วัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 300,000 โดส ให้เวียดนาม
- วัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 400,000 โดส ให้เนปาล
- วัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 550,000 โดส ให้เคนยา
- วัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 1,000,000 โดส ให้เอธิโอเปีย
แท็กที่เกี่ยวข้อง: