วันนี้ (9 มิ.ย.2565) นายไชยา พรหมา ประธานกรรมาธิการการจัดทำและติดตามการบริหารงบประ มาณ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณจ้างตรวจเครื่องตรวจจับสารเสพติด อาวุธและวัตถุระเบิด (จีที 200) ของกองทัพบก โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อมาชี้แจง
กองทัพบก ให้เหตุผลว่าเรื่องนี้ดำเนินากรตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ที่มีคำสั่งให้ตรวจสอบเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการดำเนินคดี โดยในคำสั่งศาลให้ส่งเครื่อง 757 เครื่องไปให้กับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) เป็นผู้ตรวจสอบทั้งหมด
กรรมาธิการได้สอบว่า เหตุใดจึงต้องตรวจทั้งหมดทั้งที่สวทช.ได้ส่งผลตรวจ จีที 200 ครั้งแรกในปี 2564 จำนวน 320 เครื่อง ว่าไม่มีประสิทธิภาพคือใช้ไม่ได้จริงไปยังกองทัพบก โดยกรรมาธิการมองว่าผลตรวจครั้งนี้สามารถอนุมานได้ว่า ใช้ไม่ได้ทั้งหมด
ขณะที่สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ยืนยันกับกรรมาธิการว่า จำเป็นต้องตรวจต่อทั้งหมด เนื่องจากศาลปกครองสูงสุด ยังไม่มีคำพิพากษา เพราะยังมีส่วนของบุคคลและผู้ค้ำประกัน และทางกองทัพบกก็ยืนยันว่า ในส่วนของเครื่องที่เหลือในปี 2565 ได้ยกเลิกสัญญาการตรวจ
กองทัพบกทำหนังสือไปยังอัยการสูงสุด เพื่อถามเป็นลายลักษณ์อักษรว่าต้องตรวจซ้ำหรือไม่ แต่กรรมาธิการให้ความเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องตรวจซ้ำแล้ว เพราะสามารถใช้ผลตรวจปี 2564 มาอนุมานได้ กรรมาธิการได้ขอข้อมูลจาก สวทช.เพื่้อขอทราบผลตรวจในปี 2553
อ่านข่าวเพิ่ม อสส.แจงไทม์ไลน์ "จีที 200" ชี้คดีสิ้นสุดไม่ต้องแกะตรวจซ้ำ
นายไชยา กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้รายงานกับครม.ว่าผลเป็นอย่างไร ทั้งนี้กรรมาธิการจะดำเนินการต่อเนื่องจากมีข้อมูลเชิงลึกว่า แม้จะมีความเสียหายทางแพ่ง แต่ยังกังวลว่าผู้ที่ถูกร้องจะสามารถชดใช้ให้รัฐมากน้อยแค่ไหน รวมถึงการตั้งคณะกรรมการสอบของกองทัพบกในส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องเพราะกรรมาธิการมองว่าเป็นการซื้อเวลา ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีอำนาจ และดำรงตำแหน่งในกองทัพบกในการอนุมัติช่วงขณะนั้นหรือไม่ หากไม่จำเป็นต้องตรวจต่อ งบประมาณที่เหลือสามารถคืนเงินเข้าระบบตามเดิมได้
นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่เปิดประเด็นและอภิปรายในสภาฯ บอกว่า ถือเป็นชัยชนะของสภาฯ ที่ได้มาฟังข้อมูลการชี้แจงจากกองทัพบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะการชี้แจงก่อนหน้านี้ไม่ตรงกับข้อมูลในวันนี้เลย จึงตั้งข้อสังเกตว่า อัยการสูงสุดมีการขอให้ตรวจเครื่องทั้งหมด 757 เครื่องจริง และการที่ถอนอุทธรณ์ของจำเลย อัยการสูงสุดได้แจ้งผลไปกับกองทัพบกแล้ว แต่ยังไม่ระงับยับยั้งตรวจส่วนที่เหลือ ซึ่งเมื่อถามทางอัยการสูงสุดแจ้งกับกรรมาะฺการว่า เป็นการแจ้งอย่างไม่เป็นทางการไม่มีลายลักษณ์อักษร และสวทช.ไม่ได้แนะนำกองทัพ เพื่อให้ประหยัดงบในการตรวจ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สวทช.ชี้ตรวจจีที 200 ค่าบริการทดสอบถูกกว่าต่างประเทศ
ทบ.ชี้แจงปมตั้งงบฯ 7.57 ล้าน พิสูจน์ "จีที 200" ก่อนศาลตัดสินชนะ
กห.แจงตรวจ "จีที 200" เป็นข้อมูลฟ้อง "อ.เจษฎา" ชี้รู้อยู่แล้วใช้ไม่ได้