คาด "การบินไทย" ออกจากแผนฟื้นฟูเร็วกว่ากำหนด

เศรษฐกิจ
12 ก.ค. 65
18:29
355
Logo Thai PBS
คาด "การบินไทย" ออกจากแผนฟื้นฟูเร็วกว่ากำหนด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ครม.รับทราบความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย คาดอาจสามารถออกจากแผนฟื้นฟูได้เร็วกว่ากำหนดภายในปี 2567 หรือต้นปี 2568 ผลบวกจากการเปิดประเทศ ทำให้รายได้จากตั๋วโดยสาร จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น

วันนี้ (12 ก.ค.65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการ ติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) คาดจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูได้ภายในปี 2567

คณะกรรมการฯ ได้มีการประชุมครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2565 สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

1.การหารายได้จากการขนส่ง บกท.มีรายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วงเดือน มิ.ย.2565 มีส่วนแบ่งจำนวนผู้โดยสารคิดเป็นร้อยละ 33 ของจำนวนผู้โดยสารของทุกสายการบิน ซึ่งเป็นระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยของปี 2562 โดย บกท.มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 12,654 คนต่อวัน และผู้โดยสารของสายการบินไทยสมายล์สูงกว่า 12,000 คนต่อวัน

รวมทั้ง ยังมีรายได้จากการขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ทั้งในส่วนของการขนส่งในเที่ยวบินโดยสารตามตารางบินและเที่ยวบินเช่าเหมาลำในเดือน มิ.ย. 2565 จำนวน 2,057 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 44

2.การปรับลดขนาดองค์กรและต้นทุนบุคลากร ส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรลดลงจาก 29,400 ล้านบาทต่อปี เหลือ 7,920 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นสัดส่วนต้นทุนที่ลดลงประมาณร้อยละ 73

3.การปรับปรุงประสิทธิภาพฝูงบินและปรับลดต้นทุนอากาศยาน โดยปรับลดจำนวนแบบอากาศยานในฝูงบินจาก 9 แบบ เป็น 4 แบบ ลดต้นทุนด้านอากาศยานลง 8,500 ล้านบาทต่อปี

4.จำหน่ายอากาศยานที่ไม่อยู่ในแผนปฏิบัติการบินของ บกท.ประกอบด้วย อากาศยานแบบโบอิ้ง 737-400 จำนวน 11 ลำ อากาศยานแบบแอร์บัส 340 - 500 จำนวน 1 ลำ แบบแอร์บัส 340 -600 อีก 4 ลำ และมีอากาศยานที่อยู่ระหว่างรอการจำหน่ายจำนวน 18 ลำ

5.การปรับลดต้นทุนค่าซ่อมบำรุงอากาศยาน ซึ่งส่งผลให้สามารถลดต้นทุนลง 4,500 ล้านบาทต่อปี

6.การหาประโยชน์จากทรัพย์สินรองที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ โดยมีรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินรอง ตั้งแต่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการรวมจำนวน 9,258 ล้านบาท

ทั้งนี้ บกท.ยังมีทรัพย์สินรองที่อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อจำหน่าย ได้แก่ เครื่องบินฝึกจำลองที่ไม่อยู่ในแผนดำเนินงาน อสังหาริมทรัพย์ในประเทศและต่างประเทศ

รวมทั้ง ยังมีการหาประโยชน์โดยการให้เช่าพื้นที่สำนักงานใหญ่ ในส่วนที่ไม่ได้ใช้งานสำหรับการให้บุคคลภายนอกเช่า

7. การติดตามหนี้สินที่เกินกำหนดชำระจากลูกหนี้หน่วยงานภาครัฐ อาทิ กองบินตำรวจ กองทัพอากาศ เป็นต้น

บกท.มีเงินสดสุทธิ ณ วันที่ 30 มิ.ย.2565 ประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 24 เดือน นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2563 ทำให้ในขณะนี้ บกท.ยังไม่มีความจำเป็น ต้องจัดหาสินเชื่อใหม่ตามที่ระบุไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการที่ 50,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บกท.ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2565 และคาดว่า จะมีการประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการฉบับแก้ไขในเดือน ก.ย.2565

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อาจทำให้ บกท.สามารถออกจากแผนฟื้นฟูได้เร็วกว่ากำหนดภายในปี 2567 หรือต้นปี 2568

ขึ้นอยู่กับการปรับแผนฟื้นฟูที่มีสาระสำคัญ คือ การแปลงหนี้เป็นทุน และนับตั้งแต่การเปิดประเทศตามนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ทำให้การประกอบของ บกท. ดีขึ้นตามลำดับ

สามารถทำการบินในเส้นทางต่างๆ ทำให้มีรายได้และสภาพคล่องมากขึ้น สามารถลดวงเงินกู้ตามแผนจากเดิมที่ตั้งไว้ประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยจะกู้จริงไม่เกิน 1.25 หมื่นล้าน เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจปกติ

ขณะเดียวกันผู้ที่ซื้อตั๋วโดยสารค้างไว้ ยังไม่ได้เดินทาง ก็สามารถใช้สิทธิบินตามตั๋วได้ รวมทั้งการสะสมไมล์ Royal Orchid Plus สะสมไมล์ ยังสามารถแลกเป็นตั๋วเครื่องบินตามสิทธิ์เช่นเดิม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง