วันนี้ (18 ก.ค.2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุข เชิญ กทม. เข้าร่วมประชุมวันนี้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ว่า เป็นการเชิญนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งมอบหมายให้ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประชุมแทน
ส่วนประเด็นที่กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือ ลด ละ เลิก กิจกรรมกลางแจ้ง นายชัชชาติ กล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งการตรวจ ATK ยังคงที่ อาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะส่วนใหญ่ติดภายในครอบครัวและที่ทำงาน ยังไม่เห็นคลัสเตอร์จากการจัดกิจกรรมดนตรีในสวนและ กรุงเทพฯ กลางแปลง
จากนี้ กทม.จะเร่งฉีดเข็มกระตุ้นให้ประชาชน และขยายเวลาฉีดแบบวอร์กอิน ที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง เป็นวันศุกร์และวันเสาร์ พร้อมทั้งตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเชิงรุกในชุมชนมากขึ้นด้วย
ต้องดูในจุดที่เป็นปัญหาจริง ๆ ดูแล้วเตียงรักษาเขียว เหลือง แดง ไม่มีปัญหา เพราะคนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อมารับยาและกลับไปรักษาที่บ้าน ส่วนที่กังวลคือกลุ่มผู้ป่วย 608
กิจกรรมที่เสี่ยงมีหลายอย่าง ไม่ใช่แค่กิจกรรมกลางแจ้ง จึงต้องดูทั้งหมด เช่น ออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ต้องไปด้วยความระวัง แต่อย่าตระหนกเกิน หาก สธ.มีมาตรการอะไรเพิ่มเติมก็สามารถหารือร่วมกันได้ ไม่มีปัญหา ต้องดูตามข้อเท็จจริง
ด้าน พญ.วันทนีย์ กล่าวว่า มีการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ใน กทม. เพิ่มขึ้นจริง จากที่ดูสถิติใกล้ถึงจุดพีคแล้วจะลดลง ซึ่งใน กทม.จะแตกต่างจากต่างจังหวัด เพราะกทม.ได้รับวัคซีนมาก โดยเฉพาะเจ็มกระตุ้น เข็มที่ 3 ประชาชนได้รับไปแล้วกว่า 80 % ส่วนยารักษาโควิด-19 วันก่อนลุ้นว่าจะพอหรือไม่ เนื่องจากมีเคสจำนวนมาก แต่ขณะนี้ได้รับยาเพิ่มขึ้นแล้ว
นายชัชชาติกล่าวด้วยว่า วันนี้มอบหมายรองปลัดฯ ไปคุยกับกระทรวงสาธารณสุขเรื่องแนวจัดหายาฯ และ หากกรุณา กทม.ในเรื่องนี้ กทม.จะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อความมั่นใจของประชาชน
ปัจจุบัน กทม.ยังไม่สามารถสั่งยาเองได้ ต้องรับผ่านระบบ VMI ของกระทรวงสาธารณสุข ซื้อถ้าทำได้เหมือนให้ท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีน กทม.ก็อยากทำเอง เพื่อดูแลคนกรุงเทพฯ เพราะทุกวันนี้ เรายังต้องขอรับจัดสรรยา จากกระทรวงสาธารณสุขอยู่
สำหรับกิจกรรมดนตรีในสวน และกรุงเทพฯ กลางแปลงที่ กทม.จัด พญ.วันทนีย์ ยืนยันว่า ทำตามนโยบายของ ศบค.ใหญ่ ที่อยากให้ปลดล็อกผ่อนคลายมาตรการ และกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ใน 2 กิจกรรมนี้ ประชาชนเริ่มมีความสุขขึ้น แต่ต้องทำมาตรการโควิด-19 ให้เข้มข้น อย่างไรก็ตามยังไม่พบคลัสเตอร์ในกิจกรรมของ กทม.