วันนี้ (7 ก.ย.2565) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ร่วมกับพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี หลังจากได้รับแจ้งจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ว่า เครื่องสูบน้ำที่ประตูระบายน้ำปากคลองรังสิต ซึ่งประตูระบายน้ำ จุดสุดท้าย ก่อนถึงปากคลอง ที่เป็นจุดบรรจบระบายออกสู่ แม่น้ำเจ้าพระยา
แต่จุดนี้ พบว่า เครื่องสูบน้ำที่มี 20 ตัว ขณะนี้ ใช้งานได้ 11 ตัว ซึ่งตรงนี้ถือเป็นหัวใจหลักที่จะสูบน้ำออกเจ้าพระยา แต่กลับดำเนินการได้ไม่เต็มที่ จะมีผลทำให้น้ำระบายออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาช้า
อธิบดีกรมชลประทาน รับปากยืนยันว่า จะพยายามหามาเปลี่ยนเสริมแทนตัวที่เสียภายในวันนี้ โดยเครื่องจะขนย้ายจากพื้นที่ยังไม่มีเหตุน้ำท่วม แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะติดตั้งได้กี่โมง
ส่วนที่ยังซ่อมไม่เสร็จ จะนำเครื่องจากที่อื่นมาเติมให้ ส่วนบานประตูน้ำ จะเปิดเร่งระบายน้ำ ถ้าน้ำข้างล่างต่ำกว่าจะเปิดทุกบาน
สำหรับคลองรังสิต ขณะนี้ ถือเป็นสถานการณ์สำคัญ ที่มีผลต่อการระบายน้ำในพื้นที่รังสิต ขณะนี้มวลน้ำกลุ่มหลัก เป็นน้ำจากแม่น้ำนครนายก ถึง 60% ซึ่ง เป็นไปได้หรือไม่ ที่กรมชลประทาน จะช่วยสกัดการระบายออกมาให้น้อย
อ่านข่าวเพิ่ม เช็กจุดบริการ "รถรับ-ส่ง" ประชาชนตกค้างพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม กทม.
ห่วงน้ำเติมคลองรังสิตเสี่ยงท่วม
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า สถานการณ์ฝนตกหนัก และน้ำเข้ากทม.ไม่ได้ เพราะปิด และมีการสูบออกมาลงคลองรังสิต ส่วนน้ำจากคลองรังสิตเหนือ ลงมาในคลองรังสิต รวมกับน้ำจากนครนายก
ทางเดียวต้องสูบออกจากแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ตอนนี้ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ไม่ห่วง แต่ช่วงจากปากคลองไปออกเจ้าพระยา เครื่องสูบน้ำ ของกรมชลประทาน 20 เครื่องใช้ได้แค่ 11 เครื่อง
นอกจาก ความกังวลถึงมวลน้ำจากนครนายกแล้ว ใน จ.ปทุมธานี ยังกังวลทั้งปริมาณน้ำฝน และการรับน้ำเหนือ ที่ไหลลงคลองรังสิต และประเด็นที่คลองรังสิต ต้องช่วยสูบน้ำมาจากคลองเปรมประชากร ที่เชื่อมมาจากกรุงเทพ มหานคร เพื่อระบายออกสู่เจ้าพระยาด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้ทันฝน! 6 แอปฯ เช็กสภาพอากาศ-สถานการณ์น้ำ
"คลองเปรมฯ-ลาดพร้าว" น้ำวิกฤตสีแดง"ชัชชาติ" เตือนฝนเลิกงาน