วันนี้ (14 ก.ย.2565) ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ และนายสาคร เกี่ยวข้อง แถลงถึงผลการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ต่อการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชง กัญชา ว่า มีสมาชิกหยิบยกประเด็นนี้มาอภิปรายอย่างหลากหลาย และมี ส.ส. วิตกกังวล ว่า หลังการประกาศกัญชาไม่เป็นยาเสพติด ที่มองว่าจะกระทบกับสังคม เด็กและเยาวชน เพราะที่ผ่านเมื่อมีการประกาศกัญชาออกจากยาเสพติด มีผู้ที่เสพจนป่วยเป็นจิตเวชทำร้ายร่างกายคนในสังคม ทำให้รู้สึกวิตกกังวล
พรรคประชาธิปัตย์ คาดหวังว่า จะมีมาตรการควบคุมที่เข้มแข็ง และให้เป็นไปในลักษณะที่ใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ แต่เมื่อพิจารณเนื้อหาในร่างแล้วเห็นว่า ยังมีการกำหนดที่ส่งเสริมสนับสนุนการปลูกกัญชา อนุญาตให้บุคคลทั่วไปจดแจ้งขอปลูกกัญชาได้ ซึ่งเห็นว่า อาจนำไปสู่การเสพเพื่อนันทนาการ ส่งผลกระทบต่อสังคม จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนประกาศ เรื่องการปลดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติด กำหนดกลับไปเป็นยาเสพติด
พร้อมทั้งขอให้กรรมาธิการฯ ถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไป เพื่อนำกลับไปทบทวนใหม่ ให้สอดคล้องหลังกระทรวงสาธารณสุขทบทวนประกาศ หากในที่ประชุมยังพิจารณากฎหมายนี้ต่อ ส.ส.ของพรรค จะอภิปรายและแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ
นายสาทิตย์ ระบุ ได้ไปแจ้งให้วิปรัฐบาลทราบถึงท่าทีของพรรคแล้ว พร้อมย้ำไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องหลักการของกฎหมาย และไม่คิดว่าจะเป็นผลกระทบกับพรรคร่วมรัฐบาล ที่บางพรรคใช้เรื่องนี้เป็นนโยบาย เพราะมองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม เชื่อพรรคร่วมรัฐบาลจะเข้าใจ และรับทราบข้อวิตกกังวลของสังคม แต่หากที่ประชุมยังเดินหน้าพิจารณาต่อ พรรคจะโหวตไม่เห็นด้วย
น.ส.พิมพ์รพี ระบุ จากการลงพื้นที่พบปัญหายาเสพติดใน จ.กระบี่ หลายคดีแม้ไม่ใช่เรื่องกัญชาโดยตรง แต่การให้ทัศนคติว่าสิ่งเสพติดมีคุณโดยเฉพาะการให้ความรู้เรื่องกัญชาก็เป็นเรื่องน่าห่วง เพราะมีผลต่อเด็กและเยาวชน
ปชป. ห่วง ไม่เก็บดอกเบี้ย กยศ. จะไม่มีเงินหมุนเวียนกองทุน
นายสาทิตย์ กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรค้างการพิจารณาอยู่ ว่า เมื่อต้นเดือน ก.ย. ที่ประชุมสภาฯลงมติไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก ที่กำหนดให้จัดเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 โดยเห็นด้วยกับเสียงข้างน้อย ซึ่งเสียงข้างน้อยมีความคิดเห็นแบ่งออกเป็น 3 แนวทาง คือ1.ไม่เก็บดอกเบี้ย 2.ให้จัดเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 1 และ 3.อื่นๆ
ดังนั้น วันนี้ วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านต้องหารือกันถึงทางออกว่าจะเห็นด้วยกับแนวทางใด อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมของพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้แสดงถึงความวิตกว่าหากถือเอาความถูกใจอย่างเดียว แต่ลืมไปว่า กยศ. คือกองทุนหมุนเวียน จึงจำเป็นต้องมีเงินหมุนเวียน เพื่อให้เด็กได้กู้ยืมต่อไปได้ ถ้ายกเลิกดอกเบี้ยไปแล้ว กองทุนนี้ก็จะไม่เป็นกองทุนหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นปัญหามาก
ดังนั้น จุดยืนของพรรคคือต้องให้กองทุน กยศ. เป็นกองทุนหมุนเวียนต่อไป ส่วนจะเก็บอัตราดอกเบี้ยจำนวนเท่าใดสามารถพูดคุยกันได้
ส่วนจะมีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลถึงการชูนโยบายประชานิยม แต่สร้างภาระให้กับงบประมาณประเทศ หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความวิตกกังวลของทุกพรรคการเมืองที่ภาระงบประมาณของรัฐจะเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น การกำหนดนโยบายในลักษณะใช้จ่ายงบประมาณมากขึ้นก็จะเป็นภาระของประเทศ หากกองทุน กยศ. จะไม่ได้เป็นกองทุนหมุนเวียนอีกต่อไป จะเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด เพราะจะกระทบถึงงบประมาณ