ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ย้อนตำนานแชร์ลูกโซ่ 100 ปี หลังคดีนานา ไรบีนา ทำเหยื่อเสียหาย 195 ล้าน

อาชญากรรม
16:04
4,131
ย้อนตำนานแชร์ลูกโซ่ 100 ปี หลังคดีนานา ไรบีนา ทำเหยื่อเสียหาย 195 ล้าน
คดี "นานา" สะเทือนสังคมไทย เมื่อผู้เสียหาย 17 คนถูกชักชวนลงทุนจนสูญ 195 ล้านบาท แต่เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว แชร์ลูกโซ่กลุ่มแรกได้เกิดขึ้น และสร้างความเสียหายเกือบ 10,000 ล้านบาท ย้อนทำความรู้จัก "ชาร์ลส์ พอนซี" ผู้ที่ถูกขนานนามว่า เป็นบิดาแห่งแชร์ลูกโซ่

คดี "แชร์ลูกโซ่" ยังคงเกิดขึ้นในสังคมไทยไม่รู้จบ ล่าสุดสะเทือนวงการบันเทิงและผู้ติดตามอย่างหนัก เมื่อ ปอศ. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมเศรษฐกิจ) เผยว่า "นานา ไรบีนา" ถูกกล่าวหาในข้อหาฉ้อโกงและแชร์ลูกโซ่ หลังมีผู้เสียหาย 17 คนเข้าร้องเรียนว่าถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนในธุรกิจปล่อยกู้ เทรดหุ้น และร้านอาหารในต่างประเทศ จนเกิดความเสียหายรวม 195 ล้านบาท

ขณะนี้ ปอศ.ได้ส่งข้อมูลให้ ปปง. เพื่อพิจารณาเอาผิดฟอกเงินและดำเนินการยึดทรัพย์ ขณะที่นานายังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ในประเทศไทย "แชร์ลูกโซ่" ที่เกิดขึ้นจนเป็นคดีโด่งดังและเป็นจุดกำเนิดของการที่รัฐบาลต้องออกกฎหมาย พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มีผลใช้บังคับวันที่ 13 พ.ย.2527 นั่นคือ "คดีแม่ชม้อย"

กรณีนี้สะท้อนว่า "แชร์ลูกโซ่" ยังวนเวียนอยู่ในสังคมไทยแม้มีบทเรียนมากมายในอดีต และทำให้หลายคนย้อนนึกถึงต้นกำเนิดกลโกงที่โด่งดังที่สุดในโลกเมื่อกว่าหนึ่งศตวรรษก่อน นั่นคือเรื่องของ ชาร์ลส์ พอนซี (Charles Ponzi) ชายผู้ถูกขนานนามว่าเป็น "บิดาแห่งแชร์ลูกโซ่" และเป็นที่มาของคำว่า Ponzi Scheme ที่ใช้เรียกการหลอกลวงลักษณะนี้มาจนถึงปัจจุบัน

อ่านข่าวเพิ่ม : "นานา" โดนข้อหาฉ้อโกง-แชร์ลูกโซ่ เสียหาย 17 คน มูลค่ารวม 195 ล้านบาท

ในปี พ.ศ. 2463 นาย ชาร์ลส์ พอนซี (Charles Ponzi) เขาได้ใช้วิธีการเชิญชวนคนมาลงทุนจนสร้างความเสียหายที่คิดเป็นมูลค่ากว่า 257 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 9,252 ล้านบาทในปัจจุบัน (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 14 ก.ย. 2565) และทำให้นามสกุลของเขาถูกนำมาตั้งเป็น กลยุทธ์พอนซี หรือ Ponzi Scheme ซึ่งใช้อธิบายการฉ้อโกงประชาชนในลักษณะนี้ในเวลาต่อมา

ไทยพีบีเอสออนไลน์ ชวนย้อนกลับไปทำความรู้จักวิธีการฉ้อโกงในยุคนั้น

ชาร์ลส์ พอนซี คือใคร ?

เขาเป็นชาวอิตาลี เกิดในครอบครัวที่ยากจน คบเพื่อนฝูงที่เอาแต่เที่ยวเล่น ไม่ทำงาน ไม่เก็บเงิน อยู่มาวันหนึ่ง เขาย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกา ด้วยเงินติดตัวเพียง 2.5 ดอลลาร์สหรัฐ พอนซี เริ่มต้นหาเงินเพิ่มด้วยการเป็นเด็กล้างจาน และค่อย ๆ ขยับตำแหน่งขึ้นเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหาร แต่สุดท้ายเขาถูกไล่ออกเพราะโกงเงินทอนลูกค้า

จากนั้นเขาไปสมัครงานเป็นผู้ช่วยพนักงานประจำในธนาคารแห่งหนึ่ง และที่นี่คือจุดเปลี่ยนความคิดทางการเงินและกลยุทธ์การฉ้อโกงเงินในหัวเขาไปทันที

นโยบายของธนาคารแห่งนี้ คือให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากร้อยละ 6 ซึ่งในขณะนั้นถือว่าสูงกว่าดอกเบี้ยจากธนาคารอื่นมาก จึงเป็นสิ่งที่เชิญชวนให้คนนำเงินมาฝากเป็นจำนวนมากเพราะต้องการผลตอบแทนที่สูงมากเช่นกัน แต่เบื้องหลังคือ ธนาคารนำเงินฝากของลูกค้ารายใหม่ไปจ่ายค่าตอบแทนในรูปแบบอัตราดอกเบี้ยสูงให้กับลูกค้ารายเก่า จนวันหนึ่งที่ธนาคารไม่สามารถหาเงินมาจ่ายให้ได้อีกต่อไป เจ้าของธนาคารจึงหอบเงินหนีออกนอกประเทศไป

พอนซีรับรู้ เข้าใจ และเห็นประโยชน์จากกลยุทธ์นี้

เริ่มต้นการฉ้อโกงครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของอเมริกา

วันหนึ่ง พอนซี ได้รับจดหมายจากยุโรป นอกจากกระดาษเนื้อความจดหมายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เขาเจอคือ International Reply Coupon (IRC) คือคูปองที่ใช้จ่ายแทนแสตมป์ เมื่อต้องการส่งจดหมายตอบกลับ จุดนี้พอนซีพบว่า ราคาของคูปองถ้าซื้อจากยุโรปจะมีราคาที่ถูกกว่าอเมริกา

ยกตัวอย่างและตัวเลขให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น : ถ้า พอนซี ต้องการจะตอบกลับจดหมาย เขาต้องนำคูปองไปแลกเป็นแสตมป์ออกมา ซึ่งราคาที่ซื้อคูปองที่ยุโรปอยู่ที่ 10 บาท แต่เมื่อนำมาแลกเป็นแสตมป์ที่อเมริกา จะได้ที่ราคา 20 บาท (ตัวเลขราคาและหน่วยสกุลเงิน เป็นการสมมุติ เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น)

พอนซี เห็นช่องโหว่ตรงนี้เป็นช่องทางการทำเงินที่จะทำให้เขารวยขึ้น จึงเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ เชิญชวน ให้คนมาลงทุนซื้อ IRC และบอกว่าจะให้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 50 ภายใน 45 วัน และร้อยละ 100 ภายใน 3 เดือน

ช่วงเดือนแรกมีคนตัดสินใจร่วมลงทุนกับเขาเพียง 15 คนเท่านั้น แต่ทุกคนได้รับผลตอบแทนกลับตามคำเชิญชวนจริง

ดังนั้น ข่าวการลงทุนของ พอนซี จึงแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และทำให้มีคนมาลงทุนจาก 15 คนเป็น 15,000 คน ในระยะเวลาไม่กี่เดือน เงินหมุนเวียนในระบบราวๆ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากข่าวการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงจะดังกระหึ่มไปในโลกของนักลงทุนแล้ว ข่าวนี้ยังเป็นที่จับจ้องจากสื่อหนังสือพิมพ์ในเมืองบอสตันอีกด้วย นักข่าวได้ทำการตรวจสอบเส้นทางการทำธุรกิจของ พอนซี และพบว่า

-ถ้า พอนซี ทำธุรกิจแลกคูปอง IRC จริง จำนวนคูปอง IRC ในระบบควรมีมากว่า 160 ล้านใบ แต่ในความเป็นจริงพบเพียง 27,000 ใบ เท่านั้น
-ถ้าธุรกิจนี้ทำรายได้ได้จริง แต่ทำไม พอนซี ไม่เคยลงทุนในธุรกิจของตัวเองเลย

ความจริงถูกเปิดเผย ปิดฉากการฉ้อโกงระดับโลก

นักข่าวเรียบเรียงหลักฐานและเหตุการณ์มาตีพิมพ์ลงในนิตยสารทางการเงิน เจ้าหน้าที่ของรัฐจึงเข้ามาตรวจสอบธุรกิจของ พอนซี และได้พบว่า ธุรกิจของเขานั้น เขานำเงินลงทุนจากผู้ลงทุนรายใหม่ มาจ่ายคืนให้ผู้ลงทุนรายเก่า วนแบบนี้ซ้ำไปเรื่อย ๆ พอนซี ถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง ถูกจำคุก และเนรเทศกลับ อิตาลี บ้านเกิดของเขา

แต่ความเสียหายโดยตรงที่เกิดขึ้นต่อผู้ลงทุนกว่าหมื่นรายนั้น พอนซี ได้จ่ายเงินปันผลคืนให้กับผู้ลงทุนไปเพียงร้อยละ 30 ของเงินต้นที่ผู้ลงทุน ลงทุนไปเท่านั้น นอกเหนือจากนั้น เขาไม่มีเงินคืนอีกเลย ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่เกิดเหตุ หรือ 257 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน คิดเป็นเงินไทยคือ 9,252 ล้านบาท และการฉ้อโกงระดับโลกของ พอนซี ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียง 9 เดือน เท่านั้น

จะรู้ได้อย่างไรว่านี่คือ แชร์ลูกโซ่

ไทยพีบีเอสออนไลน์แนะนำข้อสังเกตที่น่าสนใจของธุรกิจที่เข้าข่าย แชร์ลูกโซ่ ถ้ามีการเชิญชวนในลักษณะดังต่อไปนี้

1. ให้ผลตอบแทนสูง และสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารทั่วไป
2. ระยะเวลาการลงทุนสั้น และได้ผลตอบแทนกลับมาไว
3. มีคนที่มีชื่อเสียง หรือมีการจัดงานกิจกรรมต่างๆ ที่ดูใหญ่โต เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการลงทุน
4. มีการแนะนำ เชิญชวน คนอีกมากมายให้มาร่วมลงทุนด้วยกัน

"การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน" เป็นประโยคที่ห้อยท้ายเอกสารการลงทุนในแทบทุกสถาบันการเงิน เพื่อย้ำเตือนให้นักลงทุนทุกคนต้องยอมรับกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้

แต่ในมุมของนักลงทุนบางคน อาจจะยึดถือวลี "High Risk High Returns" ลงมากได้มาก เสี่ยงมากได้ผลตอบแทนมาก

ไม่มีประโยคไหนที่ผิดไปทั้งหมด หรือถูกเสียทั้งหมด แต่การศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนการลงทุน ย่อมเป็นการเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ตัวนักลงทุนเอง เพราะแม้ว่าจนถึงวันนี้ พอนซี จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่กลยุทธ์การฉ้อโกง หรือ แชร์ลูกโซ่ ยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ ตราบใดที่มนุษย์ยังมี "ความโลภ" อยู่ในตัว

อ่านข่าวเพิ่ม : ตำรวจ ปอศ. บุกจับ "นานา ไรบีนา" ข้อหาฉ้อโกง - แชร์ลูกโซ่

ที่มา : ชาร์ลส์ พอนซี ต้นกำเนิดของแชร์ลูกโซ่ (longtunman.com)
         Ponzi scheme - Wikipedia

แท็กที่เกี่ยวข้อง: