น้ำมูลเอ่อล้น ชาวอุบลฯเร่งขนของขึ้นที่สูง หนีน้ำนอนเต็นท์ข้างถนน

วันนี้ (27 ก.ย.2565) จ.อุบลราชธานี ฝนตกต่อเนื่องส่งผลให้ระดับน้ำในแม่มูลเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งยังไม่ใช่อิทธิพลจากพายุโนรู แต่เป็นเพียงฝนจาก หย่อมความกดอากาศ เท่านั้น นั่นจึงทำให้ชาวบ้านรู้สึกกังวล เพราะตอนนี้ปริมาณน้ำมูลเริ่มทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน

 

ชาวบ้านในชุมชนท่ากอไผ่ อ.วารินชำราบ ซึ่งเป็นชุมชนที่อาศัยอยู่ติดกับลำน้ำมูลจึงเป็นจุดแรกที่ได้รับผลกระทบ ช่วยกันนำกระสอบทรายกั้นน้ำสูง 60 ซม. เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน แต่ก็ไม่สามารถต้านมวลน้ำที่ทะลักเข้ามาท่วมบ้านเรือนได้ 

ชาวบ้านจึงต้องขนย้ายสิ่งของสำคัญขึ้นที่สูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ประกอบอาหาร ชุดเครื่องนอน หนีน้ำขึ้นมาตั้งเต็นท์อาศัยอยู่ริมถนนโชคชัยเดชอุดม หลังปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ชุมชนหาดสวนสุข เป็นอีกหนึ่งชุมชนใน อ.วารินชำราบ ที่บ้านเรือน จำนวน 159 ครัวเรือน ถูกน้ำท่วมเสียหาย เพราะด้วยลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำคล้ายแอ่งกระทะ ทำให้ชุมชนแห่งนี้ถูกน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ชาวบ้านจึงใช้ใต้ถุนวัดและบริเวณโดยรอบเป็นที่พักชั่วคราว

 

ด้านการเตรียมรับมือพายุโนรู ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ทางสำนักชลประทานที่ 7 ได้วางแผนเตรียมที่จะติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 200 เครื่อง ที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูล อ.โขงเจียม เป็นการเร่งระบายน้ำในมูล ลงสู่แม่น้ำโขงเพื่อลดระดับน้ำในแม่น้ำให้ได้มากที่สุด ก่อนที่พายุโนรูจะเคลื่อนตัวมาถึง 

 

ขอนแก่นชาวบ้านเดินลุยน้ำซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค

ปริมาณน้ำในเขตเมืองขอนแก่น ตั้งแต่ชุมชนบ้านศรีฐาน เขตเทศบาลนครขอนแก่น ต่อเนื่องมาจนถึงบ้านไทรทอง เทศบาลตำบลบ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น เช้านี้ พบว่า ระดับน้ำเริ่มลดลง มีจุดหนักๆ เพียง 3 จุดที่น้ำยังท่วมผิวจราจร ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ก็ทำให้ยังเห็นรถเล็ก อย่างรถเก๋ง และรถจักรยานยนต์ น้ำไหลเข้าท่อไอเสีย จนเครื่องยนต์ดับ

ขณะที่ประชาชนในชุมชนบ้านศรีฐาน เรียกร้องให้เทศบาลนครขอนแก่น นำกระสอบทรายมาวางเป็นกั้นตลอดริมถนน เนื่องจากบริเวณหน้าบ้านเป็นทางโค้ง หากรถมาเร็ว น้ำก็จะไหลเข้าไปในบ้าน 

ส่วนที่บรรยากาศที่บ้านเป็ด เขตเทศบาลตำบลบ้านเป็ด ซึ่งเป็นพื้นที่วงแหวนนอกรอบ พบว่าน้ำยังคงท่วมหมู่บ้านและโรงเรียนต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ทางโรงเรีบนต้องปิดการเรียนการสอนอย่าง ขณะที่ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำออกมาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค

ชาวบ้านบอกว่า 20 ปีที่สร้างบ้าน น้ำไม่เคยท่วม แต่ครั้งนี้ฝนตกหนัก อีกทั้งมีโครงการบ้านจัดสรรเกิดขึ้นจำนวนมาก ทำให้น้ำไม่มีที่ระบาย จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขัง

 

ต.ด่านซ้าย จ.เลย น้ำท่วมซ้ำซากปีนี้เป็นรอบที่ 3

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักหลายๆ พื้นที่ใน จ.เลย ทำให้เกิดน้ำป่าที่ไหลหลากมาตามลำน้ำ โดยเฉพาะที่ลำน้ำหมัน ซึ่งไหลผ่านมาเขตเทศบาลตำบลด่านซ้าย น้ำล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมถนนแก้วอาสา ถนนใจกลางเมือง ระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร ระดับน้ำสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร ตั้งแต่หน้าเทศบาลตำบลด่านซ้าย ที่ว่าการอำเภอด่านซ้าย สถานีตำรวจ แล้วยาวเข้าไปในตลาด ถนนกลายสภาพเป็นคลองไปแล้ว

น้ำยังไหลเข้าท่วมบ้านบุ่งกุ่ม ต.ด่านซ้าย จุดบริเวณวัดศรีมงคล ถูกน้ำท่วมซ้ำซากปีนี้เป็นรอบที่ 3 โดยระยะทางยาวประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งถนนเส้นนี้ รถเล็กไม่ควรผ่านเด็ดขาด เพราะบางจุด น้ำท่วมสูง เจ้าหน้าที่ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้เร่งช่วยชาวบ้านที่ติดเกาะ ออกจากบ้านไม่ได้ พร้อมกับส่งอาหารให้

 

โคราชเฝ้าระวังน้ำมูลล้นตลิ่งท่วมบ้านประชาชน

จ.นครราชสีมา ยังต้องเฝ้าระวังน้ำในแม่น้ำมูลที่ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต.กระเบื้องใหญ่ อ.พิมาย โดยน้ำจากน้ำมูลพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้ไหลเข้ามาสมทบลำน้ำมูลใน ต.กระเบื้องใหญ่ ระดับน้ำเพิ่มสูง จนเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน

ล่าสุด โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ เขื่อนพิมาย ได้เร่งเดินเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 20 เครื่อง เพื่อผลักดันน้ำที่อยู่เหนือเขื่อนพิมายให้ไหลลงสู่ลำน้ำมูลด้านท้ายเขื่อนพิมายโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้มวลน้ำที่ไหลมาจากพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัด ไหลเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในเขตเทศบาลตำบลพิมาย และพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอ

โดยเฉพาะแหล่งโบราณสถานต่างๆ ใน อ.พิมาย ซึ่งคาดว่า 1-2 วันนี้ จะมีมวลน้ำก้อนใหญ่ ไหลเข้าสู่พื้นที่ อ.พิมายในปริมาณมาก จึงอยากแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด