วันนี้ (27 ต.ค.2565) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านสืบสวนสอบสวน กล่าวถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ออกมาแถลงข่าวเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินการเอาผิดกับนักธุรกิจชาวจีนที่เข้ามาเปิดสถานบันเทิงมั่วสุมยาเสพติดในประเทศไทยพร้อมเตรียมยื่นข้อมูลเกี่ยวกับนายทุนจีนสีเทาและผู้รับผลประโยชน์ว่า
นายชูวิทย์ ได้โทรศัพท์แจ้งว่าจะส่งข้อมูลมาให้ คาดว่าวันนี้ข้อมูลดังกล่าวจะมาถึงตน ซึ่งจะเร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของชาวจีนเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย แต่มีการนำยาเสพติดเข้ามาด้วย ซึ่งการเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทย ยิ่งมียาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นเรื่องที่ละเว้นไม่ได้
อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เรียกประชุมทีมสืบสวน พร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ทั้งในพื้นที่ บช.น. และพัทยา ตรวจสอบเจ้าของกิจการว่ามีการเข้า-ออกประเทศอย่างถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งขั้นตอนการเปิดบริษัทมีการใช้นอมินีอย่างไร ซึ่งตำรวจจะไล่ตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงเส้นทางยาเสพติดด้วย
วันนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเกี่ยวการกระทำผิดของคนจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในลักษณะให้มีการฝากยาเสพติดได้ อันนี้ถือว่าหนักหนาสาหัสแล้ว ยังมีลักษณะเป็นบ่อนการพนัน แล้วก็มีผู้เสียชีวิตจากยาเสพติด อีกส่วนเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ผกก.สถานีตำรวจท้องที่ รอง ผกก.ปราบปราม ต้องตรวจสอบว่าอยู่อย่างไรทำไมไม่รู้ ทั้งที่มีการเปิดกันมานานแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบสถานบันเทิงในท้องที่ สน.ยานนาวา สถานบันเทิงย่านรัชดาภิเษก และพัทยา เป็นคนละเจ้าของกัน ตอนนี้ทราบชื่อ และรู้ตัวบุคคลทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงเรื่องยาเสพติดที่ยังต้องตรวจสอบ ยืนยันตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า รูปแบบการกระทำผิดมีการเปลี่ยนรูปแบบ อย่างเมื่อก่อนเป็นรูปแบบทัวร์ศูนย์เหรียญ ปัจจุบันก็มีผับศูนย์เหรียญ ซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่ชาวจีน เมื่อมาถึงก็จะตรงมาเที่ยวผับนี้ เพราะมีทุกอย่างพร้อม เด็กเอ็นเตอร์เทน และมีการใช้ยาเสพติด
ทั้งนี้เมื่อวานได้เชิญผู้แทนสถานทูตจีน หัวหน้าตำรวจจีน มาร่วมแถลงข่าว เพื่อให้ทางสถานทูตรับทราบว่ามีคนจีนกลุ่มนี้เข้ามาก่อเหตุลักษณะนี้ในประเทศไทย ซึ่งสถานทูตจีนจะได้ไปแจ้งรัฐบาลจีนให้เข้มงวดกับคนกลุ่มนี้ต่อไป