เช็กด่วน! พบโควิดสายพันธุ์ BA.4.6-XBB.X ในไทยรวม 8 คน

สังคม
2 พ.ย. 65
19:39
1,131
Logo Thai PBS
เช็กด่วน! พบโควิดสายพันธุ์ BA.4.6-XBB.X ในไทยรวม 8 คน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมวิทย์ฯ เผยไทยพบโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.3.20 ในไทยแล้ว 2 คน มีแนวโน้มแพร่เร็ว ส่วน BA.4.6 ซึ่งมีแนวโน้มหลบภูมิได้ดี พบในไทยจำนวน 3 คน ส่วน XBB.X พบ 5 คน ทั้งหมดยังไม่พบสัญญาณที่น่ากังวล

วันนี้ (2 พ.ย.2565) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับเครือข่าย ขณะนี้สายพันธุ์หลักที่พบยังเป็นโอมิครอน และการติดเชื้อส่วนใหญ่ยังเป็น BA.5 เช่นเดียวกับทั่วโลก

นอกจากนี้ พบสายพันธุ์ย่อยที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุให้เฝ้าติดตามเพิ่มขึ้น เช่น XBB , BA.4.6 และ BQ.1 โดยแต่ละพื้นที่อาจพบการระบาดสายพันธุ์ที่ต่างกัน เช่น ยุโรปและสหรัฐอเมริกา รายงานแนวโน้มสายพันธุ์ BQ.1, BQ.1.1 เพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าสายพันธุ์ BQ.1 หรือ BQ.1.1 มีความรุนแรงกว่า BA.4 หรือ BA.5

ข่าวที่ระบุว่ามีสายพันธุ์ใหม่ ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีสายพันธุ์ใหม่ โดยยังเป็นสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์ที่มีการระบาดก่อนหน้านี้ เช่น เดลตา อัลฟา แกมมา โอมิครอน

พบ 3 คนติดเชื้อ BA.4.6 ซึ่งมีแนวโน้มหลบภูมิได้ดี 

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า สำหรับสายพันธุ์ย่อยที่องค์การอนามัยโลกระบุให้เฝ้าติดตามที่เริ่มพบในประเทศไทย เช่น สายพันธุ์ BA.4.6 มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น เช่น BA.1, BA.2, BA.4 และ BA.5 พบว่าภูมิคุ้ม กันของคนที่ได้รับวัคซีนหรือติดเชื้อมาก่อน ลบล้างเชื้อหรือฆ่าเชื้อ BA.4.6 ได้น้อยลงกว่าครึ่งหนึ่ง แสดงว่าคนที่ได้รับวัคซีนหรือเคยติดเชื้อมาจะได้ผลต่อ BA.4.6 น้อยลงไปครึ่งหนึ่ง ขณะนี้พบ 3 คนแล้ว

 

ขณะที่สายพันธุ์ BA.2.3.20 ซึ่งเป็นลูกหลานของ BA.2 มีการกลายพันธุ์อยู่หลายตำแหน่ง มีแนวโน้มแพร่เร็ว แต่ยังไม่มีข้อมูลความรุนแรง ขณะนี้พบในประเทศไทยแล้ว 2 คนหายป่วยแล้ว  

ส่วน AY.103 ซึ่งเป็นลูกหลานเดลต้า ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ เพียงแต่มีตำแหน่งกลายพันธุ์ที่เพิ่มจากเดลต้าเดิม ยังไม่มีหลักฐานแสดงความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น และมีรายงานเข้าฐานข้อมูล GISAID เพียงรายเดียว จึงยังไม่ต้องกังวลอะไร ประเทศไทยยังไม่พบ

1 สัปดาห์โควิดสายพันธุ์ BA.2.75 ถึง 10 คน

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา 22-28 ต.ค.นี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เฝ้าระวังตรวจการกลายพันธุ์โควิด-19 จำนวน 143 ตัวอย่าง พบเป็นสายพันธุ์ BA.2 จำนวน 5 คน สายพันธุ์ BA.4/BA.5 จำนวน 118 คนและสายพันธุ์ BA.2.75 จำนวน 10 คน และโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ 10 คน

สิ่งที่น่าสนใจคือพบ BA.2.75 ถึง 10 คน ในบางพื้นที่ เดิมบางสัปดาห์พบเพียง 3-5 คน ถือว่าเพิ่มขึ้นต้องติดตามเฝ้าระวังต่อ

อนาคตเราจะจับตาดู BQ.1 ว่าจะเพิ่มจำนวนเหมือนในยุโรป สหรัฐอเมริกาหรือไม่ ซึ่งจะต้องเพิ่มน้ำยาตรวจจำเพาะต่อสายพันธุ์ BQ ทั้งหลายด้วย

จับตาสายพันธุ์ย่อยพบในไทยเพิ่ม 

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า โดยสรุปจำนวนสายพันธุ์ย่อยที่น่าสนใจ และองค์การอนามัยโลก ระบุให้เฝ้าติดตาม ซึ่งประเทศไทยพบ และได้เผยแพร่ในฐานข้อมูล GISAID ดังนี้

  • BF.5 พบ 6 คน
  • BF.7 พบ 2 คน
  • BQ.1 พบ 2 คน
  • BE.1 พบ 5 คน
  • BE.1.1 พบ 2 คน
  • BN.1 พบ 9 คน
  • BA.4.6 พบ 3 คน
  • XBB.X พบ 5 คน 
  • BA.2.3.20 พบ 2 คน  

การกลายพันธุ์ เป็นเรื่องปกติของไวรัส และมีการแตกลูกหลานจำนวนมาก ซึ่งยังไม่มีสัญญาณของความรุนแรง ที่เพิ่มเติมจากปกติแต่อย่างใด ประกอบกับผู้คนในโลกมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น ทั้งจากการติดเชื้อและการฉีดวัคซีน ทำให้อัตราการเสียชีวิตก็ลดน้อยลง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง