วันนี้ (8 ต.ค.2565) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดมกวาดล้างปราบปรามผู้กระทำความผิดที่ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนเถื่อน อาวุธปืนสงคราม ยาเสพติด และหมายจับค้างเก่า ก่อนที่จะมีการจัดการประชุมผู้นำ APEC ปลายเดือน พ.ย.นี้ โดยมีการระดมกวาดล้างในห้วงระหว่างวันที่ 10 ต.ค. - 8 พ.ย. 2565 โดยเป็นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุน ทั้งสิ้น 11,811 คดี ผู้ต้องหา 10,450 คน ของกลางอาวุธปืนสงคราม 36 กระบอก ปืนไม่มีทะเบียน 5,345 กระบอก มีทะเบียน 936 กระบอก วัตถุระเบิด 4,342 รายการ และเครื่องกระสุน 37,045 นัด
หนึ่งในคดีสำคัญ คือ การจับกุมนายวีรยุทธ อายุ 32 ปี เป็นเจ้าของร้าน "CHAROEN AIRSOFT 4289" ซึ่งเป็นร้านค้าออนไลน์ขายอาวุธปืนบีบีกัน และแบลงค์กันดัดแปลงให้สามารถยิงกระสุนจริงได้ผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ซึ่งตำรวจขยายผลไปจับกุมเครือข่ายที่ซื้อปืนของนายวีรยุทธ และโรงกลึงที่รับดัดแปลงอาวุธ รวม 209 จุด ได้ตัวผู้ต้องหา 54 คน อาวุธปืน 110 กระบอก วัตถุระเบิด 11 ลูก และกระสุนปืนจำนวนมาก
และนอกจากการเน้นระดมกวาดล้างอาวุธปืนแล้ว ยังมีการกวาดล้างคดียาเสพติด 41,803 คดี ได้ผู้ต้องหา 43,027 คน และบุคคลตามหมายจับค้างเก่าอีก 9,465 หมายจับ ได้ผู้ต้องหา 9,255 คน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การระดมกวาดล้างอาชญากรรมครั้งนี้เป็นมาตรการเตรียมความพร้อมเพื่อรักษาความปลอดภัยในห้วงที่จะมีการจัดการประชุมเอเปค 2022 ซึ่งแม้ว่าการข่าวจะยังไม่พบความผิดปกติ แต่ตำรวจก็ไม่ประมาทและมีการปิดล้อมตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย ซึ่งเคยใช้เป็นที่กบดานของอาชญากร หรือติดตามจับกุมผู้ต้องหาหมายจับค้างเก่า
ตลอดจนตั้งจุดตรวจทั้งแนวชายแดน และเส้นทางต่าง ๆ ที่จะเข้ากรุงเทพฯ และภายในพื้นที่กรุงเทพฯ คุมเข้มแนวชายแดนธรรมชาติ รวมถึงจะมีการประกาศให้พื้นที่การประชุม ที่พักของผู้นำ และเส้นทางที่ผู้นำจะใช้ เป็นพื้นที่ห้ามกีดขวางการจราจร เพื่อป้องกันการรวมตัวของผู้ชุมนุมด้วย
นอกจากนั้น ยังซักซ้อมขบวนรถอารักขาผู้นำทุกประเทศและสถานที่พำนัก พร้อมยืนยันตำรวจมีความพร้อมดูแลความปลอดภัยในการประชุมแล้วกว่าร้อยละ 80 ยังเหลือการซักซ้อมการเกิดเหตุก่อการร้ายที่จะซ้อมในวันที่ 11 พ.ย.นี้
ส่วนกรณีที่มีการวิสามัญนายมะนาเซ ไซร์ดี ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดและวางเพลิงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ยืนยันว่ายังไม่พบความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการประชุมเอเปก 2022 แต่เป็นการจับกุมตามหมายจับค้างเก่าที่ดำเนินการต่อเนื่อง