วันนี้ (29 พ.ย.2565) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พูดถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เสมือนเป็นพรรคเดียวกันว่า เป็นเพียงการพูดเล่นคำเปรียบเปรย ไม่เข้าข่ายการครอบงำ
ส่วนจะมีใครไปร้องเรียนในเรื่องประเด็นการครอบงำก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการไต่สวนแต่จะจับประเด็นจากคำพูดไม่ได้ ซึ่งการจะเข้าข่ายการครอบงำต้องมีพฤติกรรมและลักษณะของการกระทำที่บ่งชี้
ส่วนใครที่ติดใจคำพูด พล.อ.ประวิตร ก็สามารถไปร้องกับ กกต.ได้ ทั้งนี้ ทุกพรรคเป็นพันธมิตรกันก่อนการเลือกตั้งได้ แม้ตอนหาเสียงจะแข่งขันกันแต่เมื่อถึงเวลาจัดตั้งรัฐบาลก็สามารถมารวมกันได้
นายวิษณุ ยังระบุถึงความเป็นไปได้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติว่า สามารถทำได้แม้ว่าจะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ และไม่ได้ย้อนแย้งกับกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ
ผู้ที่เดือดร้อน คือ พรรคพลังประชารัฐไม่ใช่ประชาชน และการโหวตนายกฯก็มาจากหลายพรรคที่ให้การสนับสนุนยกมือโหวต เพียงแค่ชื่อตั้งต้นมาจากพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น และไม่ถือว่ามีข้อผูกมัด
แต่หากใครมีข้อสงสัยก็สามารถไปยื่นตรวจสอบได้ตามกระบวนการ แต่ในทางกฎหมายไม่ถือว่าผิด ทั้งนี้ส่วนตัวไม่มีความเห็นเรื่องการยุบสภาตามที่นายกฯ ระบุว่า จะมีการยุบสภาฯก่อนปีใหม่
นายวิษณุ ย้ำถึงการออกกฎหมายลูกว่า รัฐบาลไม่ได้วิตกกังวลในเรื่องนี้เพราะมีทางออกอยู่หลายทาง ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะสรุปสุดท้ายว่าอย่างไร ซึ่งหากจะเร่งรีบไปปรึกษา กกต.ตอนนี้อาจถูกมองว่าตีตนไปก่อนไข้ หรือหนักกว่านั้นอาจถูกมองว่าบ้า