นอกจากชาวจีนในประเทศที่วิตกกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแล้ว บ้านใกล้เรือนเคียงอย่างญี่ปุ่นก็ออกมาประกาศยกระดับมาตรการทันที เพื่อเตรียมรับมือนักเดินทางชาวจีนในตั้งแต่เดือน ม.ค.2566 เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดในจีน รวมถึงการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19
ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนประเมินว่านักท่องเที่ยวจีน อาจจะไม่ได้หลั่งไหลออกนอกประเทศในทันที เนื่องจากมีหลายปัญหาที่คนจีนยังกังวล
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2565 ที่นครเซี่ยงไฮ้ของจีน มีการตั้งคลินิกไข้เพื่อรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ไม่ห่างจากตู้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เดิม ที่ใช้การมานานนับปี เป็นภาพที่หลายคนมองว่า สะท้อนถึงการปรับเปลี่ยนไปสู่การใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19 มากขึ้น จากการถอนตัวจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์
ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ทั้งหน่วยฉุกเฉินและในโรงพยาบาล กำลังปฏิบัติงานกันอย่างหนักหน่วงท่ามกลางการระบาดระลอกใหม่ แพทย์จากโรงพยาบาลหลายแห่งเปิดเผยว่า มีคนไข้ล้นมือ จำนวนมากกว่าปกติ 5-6 เท่าตัว และส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ
ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ ประเมินว่าแต่ละวันจีนมีผู้ติดเชื้อหลายล้านคน รวมถึงคาดว่าปีหน้าจีนอาจมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้อย่างน้อย 1 ล้านคน
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าว Bloomberg และ Financial Times รายงานอ้างผู้ที่ทราบข้อมูลจากการประชุมภายในของคณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติจีน ซึ่งระบุว่าในช่วง 20 วันแรกของเดือนนี้ มีชาวจีนที่อาจติดเชื้อโควิด-19 ร่วม 250 ล้านคน ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้น อาจคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 18 ของประชากรจีน 1,400 ล้านคน และนับเป็นการระบาดระลอกใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น
แต่นี่เป็นเพียงการประเมินเท่านั้นเพราะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขแน่ชัด
ทางด้านหน่วยงานควบคุมและป้องกันโรคของจีน ประกาศว่าจะเปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อเพียงเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น หลังจากลดระดับการจัดการโรคนี้อยู่ในประเภท B
การลดระดับการจัดการโรคติดเชื้อดังกล่าวเปิดทางให้จีนยกเลิกการบังคับกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ หลังบังคับใช้ต่อเนื่องมาตั้งแต่มีนาคม 2563
จีนในอยากออก จีนข้างนอกอยากเข้า
การคลายกฎเข้าประเทศของจีน อาจเป็นข่าวดีของบรรดาชาวจีนทั้งที่ติดอยู่ในประเทศไปไหนไม่ได้มาร่วม 3 ปี และชาวจีนซึ่งอาศัยในต่างประเทศที่ไม่ได้กลับบ้านมาเกือบ 3 ปีเช่นกัน หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของจีนเปิดให้ชาวจีนที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ สามารถทำหนังสือเดินทางได้อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2566
ข้อมูลจากเว็บไซต์ท่องเที่ยวพบว่า เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หลังจีนประกาศเตรียมยกเลิกกฎบังคับกักตัวเมื่อเดินทางเข้าประเทศ ยอดการค้นหาทริปเดินทางต่างประเทศเพิ่มขึ้น 10 เท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือสำหรับบางเว็บไซต์ ยอดค้นหาเพิ่ม 7 เท่าภายใน 15 นาทีเท่านั้น และปลายทางที่เป็นคำค้นยอดนิยม คือ ญี่ปุ่น ไทย เกาหลีใต้
ก่อนโควิด-19 ระบาด จีนคือชาติที่ใช้จ่ายในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ออกท่องเที่ยวในต่างประเทศใช้จ่ายเม็ดเงินมากถึง 127,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2562 หรือมากกว่า 4.4 ล้านล้านบาท และ มาเก๊า ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ กับไทย คือปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน
แต่กระแสแบ่งเป็น 2 ทาง
นอกจากการเตรียมตัวเดินทาง อีกด้านหนึ่ง ผู้ประกอบการนำเที่ยว รวมถึงเว็บไซต์ติดตามการบิน ตั้งข้อสังเกตว่า จำนวนเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกจากจีน อาจจะยังไม่เพิ่มขึ้นมากนัก จนกว่าจะถึงช่วง เดือนพฤษภาคม ขณะที่นักวิจัยสาขาการท่องเที่ยว มองว่าการเดินทางต่างประเทศจะยังไม่กลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด จนกว่าจะถึงปี 2567
ปัจจัยสำคัญคือสถานการณ์ระบาดที่รุนแรงในตอนนี้ กับอีกปัญหาคือเรื่องเงิน เพราะอย่าลืมว่าหลายคนต้องตกงานหรือรายได้ลดลงช่วงที่เกิดโรคระบาด
และเมื่อดูผลการสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคที่เผยแพร่ในเดือนธันวาคมนี้ ก่อนประกาศเตรียมเปิดประเทศ ปรากฏว่าชาวจีนมากกว่าครึ่งที่ตอบแบบสอบถาม ระบุว่าพวกเขาจะรอดูสถานการณ์ไปก่อน อย่างน้อยก็หลายๆ เดือน หรือเป็นปี นับตั้งแต่จุดที่รัฐบาลเปิดประเทศ ก่อนจะเริ่มตัดสินใจเดินทางต่างประเทศอีกครั้ง
แต่สำหรับการเดินทางเพื่อทำธุรกิจระหว่างประเทศ กรณีนี้คาดว่าจะกลับมาเฟื่องฟูอย่างรวดเร็ว
ซึ่งเมื่อยักษ์ใหญ่อย่างจีนขยับตัว แน่นอนต้องส่งแรงกระเพื่อม ไม่ใช่แค่บ้านเราที่เคยรับนักท่องเที่ยวจีนติดอันดับต้นๆ เท่านั้น
ญี่ปุ่น-อินเดีย ประกาศมาตรการเข้าเมืองใหม่รองรับคนจีน
ฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ออกมาประกาศมาตรการพิเศษทันที โดยระบุว่าจะเริ่มจัดตั้งระบบโดยเร็วที่สุด และจะเริ่มบังคับใช้มาตรการเข้าเมืองใหม่นี้ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 30 ธ.ค.2565
โดยผู้ที่เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ หรือมีประวัติเดินทางไปจีนใน 7 วันก่อนหน้า
เมื่อเข้าญี่ปุ่น จะต้องมีผลตรวจเชื้อเป็นลบ หากพบว่าผลเป็นบวก จะต้องกักตัว 7 วัน และทุกคนที่ผลตรวจเป็นบวกจะต้องเข้ารับการตรวจวิเคราะห์พันธุกรรมเชื้อด้วย
นอกจากนี้ผู้นำญี่ปุ่นยังประกาศกฎการจำกัดจำนวนเที่ยวบินระหว่างจีนและญี่ปุ่น เนื่องจากคาดว่าสายการบินต่างๆ น่าจะพยายามเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน ถือเป็นการยกระดับมาตรการ หลังจากญี่ปุ่นเปิดรับนักท่องเที่ยวเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากปิดประเทศมา 2 ปีเต็ม และปัจจุบันใช้การยื่นหลักฐานการฉีดวัคซีนล่วงหน้า 3 เข็ม หรือยื่นผลตรวจเป็นลบก่อนเข้า
อินเดีย เป็นอีกประเทศที่ออกมาตรการชัดเจน โดยก่อนหน้านี้อินเดียออกคำสั่งบังคับดูผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบ จากนักเดินทางที่เข้าอินเดียจากประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และไทย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขอินเดีย ระบุว่าหากผู้ที่เดินทางเข้าอินเดียจากประเทศเหล่านี้มีอาการคล้ายโควิด-19 หรือผลตรวจเป็นบวก จะต้องกักตัว
ที่มา : Bloomberg, Financial Times