ยังไม่ลงตัว แต่ส่อเค้ายังวุ่น เมื่อ “ตั๊น” น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ตัดพ้อทำนองน้อยใจโดยระบุว่า “อยู่ที่ไหนก็ได้ ถ้าเขาเห็นคุณค่า” แม้ขณะนี้ยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวอื่นใดออกมาจากพรรคฯ และเจ้าของโพสต์
การไม่ได้อยู่ในลำดับที่เรียกว่า “เซฟโซน” ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ไม่ได้เกิดกับ น.ส.จิตภัสร์ เท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้ “อาจารย์แหม่ม” น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก พรรคพลังประชารัฐ ออกมาแถลงด้วยน้ำตาคลอเบ้าขอสละสิทธิ์เป็นว่าที่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ โดยไม่มีใครออกมาคัดค้าน
ไม่เพียงประชาธิปัตย์และพลังประชารัฐ ที่เกิดปัญหาเช่นนี้ แต่พรรคใหญ่อย่างเพื่อไทย หรือพรรครวมไทยสร้างชาติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ประสบปัญหาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อล้นพรรค จนต้องขยับและเขย่าโผรายชื่อให้ลงตัว ก่อนที่ กกต.จะประกาศรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อวันที่ 4 เม.ย.นี้
เช่นเดียวกับการจัดลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็เกิดปัญหา มีการประเมินกันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ อาจได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อไม่เกิน 10 คน และเผื่อไว้บวกลบอีก 5 ที่นั่ง เป็นเหตุให้มีการใช้กำลังภายในช่วงชิงเพื่อให้มีรายชื่ออยู่ลำดับต้นๆ
ขณะที่ตามระเบียบข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ มีธรรมเนียมปฏิบัติ คือ กำหนดสัดส่วนให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5 คน จะต้องมีผู้สมัครผู้หญิง 1 คน กล่าวคือ
มี ส.ส.ชาย 4 คน และปิดท้ายคนที่ 5 ด้วย ส.ส.หญิงเพื่อให้สิทธิสตรี โดยมีการวิเคราะห์ว่าผู้ที่อยู่ในลำดับที่ 1-10- จะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยและการันตีว่าได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อค่อนข้างแน่นอน
นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ ยังมีการจัดทำโผ หรือลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อของผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบัน ที่มาจากเปิดรับสมาชิกพรรคใหม่เพิ่ม ประกอบด้วย นักวิชาการ กลุ่มทุนและนักการเมือง โดยมีการระบุว่า ผู้บริหารที่กุมอำนาจในพรรคฯ ให้ความสำคัญมากกว่า ส.ส.หรือสมาชิกพรรคเดิม
มีรายงานข่าวจากพรรคฯ ระบุว่า ในขณะที่ผู้ที่เข้ามาใหม่ได้มีการร้องขอให้ส่งลงสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งถือว่าขัดกับตามหลักปฏิบัติของพรรค ซึ่งที่ผ่านมาจะยึดตามหลักอาวุโส และการเข้าเป็นสมาชิกพรรคฯและเป็นส.ส. ที่ช่วยขับเคลื่อนงานพรรคฯ ทั้งในสภาและนอกสภามาก่อนเป็นหลัก
ความระส่ำระสายจึงเกิดขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากรายชื่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 1-10 ของพรรคฯ จะพบว่า มีการจัดลำดับเบื้องต้นดังนี้ คือ 1. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ 2. นายชวน หลีกภัย
3. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน 4. นายนิพนธ์ บุญญามณี 5.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช 6. นายนราพัฒน์ แก้วทอง 7. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ 8. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ 9. นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ และ 10 มีรายชื่อ ส.ส.หญิงที่จ่อคิวอยู่ 4 คน คือ “มาดามเดียร์” น.ส.วทันยา บุนนาค , น.ส.รัชดา ธนาดิเรก และ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร และ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล
นั่นหมายความว่า ในพื้นที่ปลอดภัยของ ส.ส.หญิงระบบบัญชีรายชื่อมีลำดับเดียว แต่มีผู้เข้าชิงในลำดับนี้ถึง 4 คน จำนวนนี้มี 2 คนที่อยู่ในขั้วที่ใกล้ชิดกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คือ “ติ่ง” มัลลิกา ขณะที่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคและ ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคปชป. สนับสนุน น.ส.วทันยา ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม.
ส่วน น.ส.จิตภัสร์ และ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต ส.ส. กทม.ที่มีบัญชีรายชื่อเข้าชิง 1 ใน 4 ก็อยู่ในขั้วที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ให้การสนับสนุน โดยตัวนายเฉลิมชัย สละสิทธิไม่ลง ส.ส. เขตและระบบบัญชีรายชื่อ แม้ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะชี้ว่า คนเคาะรายชื่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อมีเพียง 2 คือ “นายจุรินทร์ และ นายเฉลิมชัย” เท่านั้น
“วัดดวง” เป็นเรื่องที่ยังไม่ถึง แต่คนอยู่และคนไปจะต้องประเมินว่า ในอนาคตอันใกล้ การย้ายไปพรรคอื่น เพื่อให้มีที่ยืนอยู่ในลำดับต้นๆ น่าจะเป็นเรื่องยาก เว้นเสีย แต่ว่า “เส้นใหญ่” และมีกลุ่มทุนที่หนุนหนาจริง ก็อาจได้ไปต่อ