จากกรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศซูดาน และขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินทางกลับมายังประเทศไทย
อับดุลอาซิ เจ๊ะดือเระ ศิษย์เก่าและอดีตสมาชิกสมาคมนักศึกษาไทย ณ ซูดาน ตัวกลางในการประสานงานกับนักศึกษา ได้อธิบายถึงเหตุการณ์และแผนการเดินทางอพยพหลังเกิดเหตุความไม่สงบในซูดานครั้งนี้ กับไทยพีบีเอส โดยระบุว่า
จุดที่นักศึกษาไทยอยู่ในซูดาน คือ ศูนย์กลางของจุดปะทะ ซึ่งก็คือ เมืองคาทูม และอีกจุดคือ เมืองออมดุรมาน ซึ่งเป็น 2 จุดหลักที่คนไทยอยู่ซึ่งเป็นจุดที่มีการปะทะหนักทั้งคู่ เพียงแต่ว่า ในช่วง 72 ชม.หรือในช่วง 1- 2 วันนี้ มีการประกาศหยุดยิงระหว่างทั้ง 2ฝ่าย จึงทำให้นานาชาติเริ่มอพยพ ประชาชนคณะทูตและประชาชนของตัวเองไปในเส้นทางต่าง ๆ
นักศึกษาไทยเดินทางออกจากคาร์ทูม ด้วยรถบัส 6 คัน การวางเเผนเดินทางอพยพครั้งนี้ ได้วางเเผนการเดินทางตั้งเเต่วันเเรกของการปะทะ เเละต้องเลือกเส้นทางอพยที่ปลอดภัยที่สุด ภายใต้เป้าหมายเดียวกันคือการกลับบ้าน
ตามที่ได้ข้อมูลมาคนไทยจะเริ่มอพยพตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. โดยเดินทางโดยรถบัส 6 คัน มุ่งหน้าไปยังพอร์ตซูดาน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 13 ชม.แต่โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะใช้เวลามากกว่านั้น เนื่องจากต้องผ่านจุดปะทะ รวมถึงต้องเลี่ยงเส้นทางเพื่อความปลอดภัย ประกอบกับคาดว่าจะมีรถติดจำนวนมาก เพราะชาวซูดานเองก็อพยพออกจากเมืองหลวงเช่นกัน
ระหว่างทาง นายอับดุลอาซิ ได้พยายามติดต่อกับนักศึกษาแต่ด้วยสัญญาณอินเตอร์เนตในประเทศไม่ดีนัก ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ กงสุล และเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศที่จะคอยประสานงานอยู่ตลอด
น้องหลายคนรู้สึกหวาดกลัว บางคนไม่ได้นอนมา 4-5 วันแล้ว เพราะได้ยินเสียงปะทะ เสียงระเบิดดังอยู่ตลอดเวลา แต่น้อง ๆ ยังได้คุยกับสถานทูต และเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา ก็ต้องขอบคุณสถานทูตที่เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันแรก ๆ ทำให้น้องๆ ได้ทยอยลงทะเบียนเพื่อเดินทางกลับไทย
แผนการเดินทางหลัก คือ การเดินทางออกจากเมือง คาร์ทูม ไปยัง ท่าซูดาน ใช้เวลาประมาณ 13 ชม. จากนั้นนั่งเรือต่อจากพอร์ตซูดานไปยังเจดดาร์ซาอุดีอาระเบีย 10-12 ชม. และนั่งขึ้นเครื่องบินตรงมาไทย 8 ชม. ซึ่งตามคาดการณ์ คือ จะถึงไทยประมาณวันที่ 27 เม.ย.นี้
อับดุลอาซิ อธิบายเพิ่มเติมว่า ผู้ที่เดินทางมาศึกษาที่ซูดานนั้นเป็นนักศึกษามุสลิม 100 เปอร์เซ็นต์ มีเป้าหมายที่จะเรียนภาษาอาหรับเเละศาสนา ซึ่งที่ซูดาน เป็นประเทศที่ใช้ภาษาอาหรับที่ยังคงสมบูรณ์ และมหาวิทยาลัยนานาชาติชื่อดังในโลกอาหรับ รวมทั้ง ทางมหาวิทยาลัยนานาชาติ แอฟริกาที่มอบทุนให้กับนักศึกษาไทยและค่าครองชีพไม่แพง