เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2566 พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีต้อนรับ เรือหลวงช้าง เรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกลำใหม่ ของกองทัพเรือ ที่สั่งต่อจากประเทศจีน และเดินทางถึงท่าเรือจุกเสม็ดฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
บรรยากาศที่ท่าเรือจุกเสม็ด เป็นไปด้วยความประทับใจ หลังจากเสร็จพิธีญาติและกำลังพลเรือหลวงช้าง ต่างโผกอดกันด้วยความดีใจ หลังต้องห่างกันเป็นเวลากว่า 4 เดือนในระหว่างที่ไปอยู่ที่อู่ต่อเรือที่ประเทศจีน
ภาพ : กองทัพเรือ Royal Thai Navy
ภาพ : กองทัพเรือ Royal Thai Navy
เรือหลวงช้าง เป็นเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ที่กองทัพเรือได้ว่าจ้าง บริษัท Chaina Shipbuilding Trading จำกัด ให้ต่อขึ้น ณ อู่ต่อเรือหูตงจงหัว เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งได้รับการปรับปรุงและพัฒนาแบบมาจากเรือ LPD Type 071 ที่ประจำการในกองทัพเรือจีน และมีระยะเวลาในการสร้างเรือ 4 ปี
โดยผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีรับมอบ เรือหลวงช้าง ณ อู่ ต่อเรือหูตงจงหัว เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา เรือหลวงช้างได้ออกเดินทางจากจีน เมื่อวันที่ 18 เม.ย.และถึงไทย เมื่อเวลา 15.45 น.
เรือหลวงช้าง เป็นเรือประเภทอเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำ มีกำลังพลประจำเรือ 196 นาย ปัจจุบันมี น.อ. ธีรสาร คงมั่น เป็นผู้บังคับการเรือ โดยเรือยกพลขึ้นบกลำใหม่นี้ ได้รับพระราชทานชื่อจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “เรือหลวงช้าง” (เกาะช้าง จ.ตราด)
ภาพ : กองทัพเรือ Royal Thai Navy
ภาพ : กองทัพเรือ Royal Thai Navy
คุณลักษณะที่สำคัญเรือหลวงช้าง
- มีความยาวตลอดลำ 210 เมตร ความกว้าง 28 เมตร กินน้ำลึก 7 เมตร ระวางขับน้ำ 25,000 ตันทำความเร็วสูงสุดได้ 25 นอต
- ดาดฟ้ายานพาหนะที่ 1 สามารถบรรทุกรถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) ได้ 8 คัน หรือยานเกราะล้อยาง11 คัน
- ดาดฟ้ายานพาหนะที่ 2 สามารถบรรทุก รถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) ได้ 8 คัน หรือ ยานเกราะล้อยาง 9 คัน
- อู่ลอย สามารถบรรทุกเรือระบายพลขนาดกลาง(LCM) 6 ลำ หรือ เรือระบายพลขนาดเล็ก (LCVP) 9 ลำ หรือรถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) 57 ลำ หรือ ยานเบาะอากาศ (LCAC) จำนวน 2 ลำ
ภาพ : กองทัพเรือ Royal Thai Navy
ภาพ : กองทัพเรือ Royal Thai Navy
นอกจากนี้ ยังสามารถบรรทุกกำลังรบยกพลขึ้นบกได้ถึง 600 นาย เมื่อเข้าประจำการในกองเรือยกพลขึ้นบก และยุทธบริการ กองเรือยุทธการแล้ว
ทั้งนี้ กองทัพเรือ ยังต้องใช้งบประมาณอีก 950 ล้านบาท เพื่อติดตั้งระบบอาวุธ และเรดาร์ควบคุม ใช้เวลาประมาณ 2 ปี เพื่อให้พร้อมในภารกิจหลากหลาย ทั้งปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ต่อต้านการก่อการร้าย บรรเทาภัยพิบัติ และช่วยเหลือประชาชน ในรูปแบบฐานปฏิบัติการลอยน้ำเช่นเดียวกับเรือหลวงอ่างทอง
แต่เรือหลวงช้าง ยังมีอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ คือการทำหน้าที่เป็นเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำ และจะต้องทยอยติดตั้งระบบเพิ่มเติม เมื่อจัดหาเรือดำน้ำเข้ามาประจำการ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง