วันศุกร์ที่ผ่านมา (14 มิ.ย.2567) ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขาย ปรับตัวลดลง 5.22 จุด ปิดตลาดที่ 1,306.56 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,600 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้น ดัชนีแกว่งตัวในทิศทางขาลง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า การปรับตัวของดัชนีตลาดหุ้น มีขึ้น-มีลง และ เชื่อว่าหลังจากนี้ เหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลง สะท้อนภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีปัญหาหลายด้าน ทั้งกำลังซื้อ มาตรการทางการคลังยังทำงานได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากงบประมาณในช่วงแรกยังไม่ออกมา และ มาตรการการเงินการคลังยังไม่สอดคล้องกันเท่าที่คาดหวัง ทั้งนี้ รัฐบาลพยายามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงออกมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว
ด้าน นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ ชี้ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา "ปรับตัวลดลง" จากความกังวลปัญหาทางการเมืองที่มีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน จึงทำให้นักลงทุนขายออก เพื่อลดความเสี่ยง
ขณะที่ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ซึ่งพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 100.72 โดยยังคงอยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" ซึ่งต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4
นักลงทุนมองว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมา คือ นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด และ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ขณะเดียวกันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เป็นปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด
อ่านข่าวอื่น :