ศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย ที่จะมีขึ้นวันที่ 3 พ.ย.2567 หลังเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 30 ก.ย.2567 ถึง วันที่ 4 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา
มีผู้สมัครทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย นายมนู พุกประเสริฐ อดีตนายก อบจ.สุโขทัย หมายเลข 1, นายโด่ง แสวงลาภ หรือทนายโด่ง อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 2 และนายวศินภัทร์ กิตตินันท์พาณิช หรือช่างมน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล เบอร์ 3
หากดูฐานเสียงและการสนับสนุนจากบ้านใหญ่ นายมนู ถือว่าได้เปรียบมากที่สุด เนื่องจากเป็นพี่ชายของนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ภรรยาของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ประกอบกับเป็นอดีตนายก อบจ.สมัยที่ผ่านมา ได้ว่างฐานคะแนนกับผู้นำชุมชนตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เมื่อรวมกับนายสมศักดิ์ ซึ่งถือเป็นบ้านใหญ่ของจังหวัดสุโขทัยมาอย่างยาวนาน ประกอบกับพรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุน จึงไม่อยากที่จะรักษาตำแหน่งเอาไว้อีกสมัย
นายวศินภัทร์ กิตดินันท์พาณิช หรือช่างมน อดีตรองนายก อบต.วังน้ำขาว และอดีดผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ลงในนามอิสระ หลังพรรคประชาชนไม่ได้สนับสนุน ครั้งนี้แม้จะเป็นรอง แต่ประกาศพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง
ชู 7 นโยบายไม่เพ้อฝัน ทำได้จริง ประกอบด้วยโครงการ น้ำประปาใส ไหลแรง ปรับปรุงระบบน้ำประประปาให้ใส ไร้ตะกอน มีแรงดันเพิ่ม, ทำระบบหมอทางไกล ปรึกษาหมอเบื้องดันผ่านระบบออนไลน์ ไม่ต้องเดินทาง รับยาผ่าน อสม. มีบริการรถฉุกเฉินพร้อมทีมพยาบาล
คืนคลองสุโขทัย ขุดลอดลองเป้าหมาย ให้กว้างและลึก เพื่อระบายน้ำท่วมให้ได้เร็ว และงักเก็บน้ำ ลดภัยแล้ง ทำเครือข่ายอาสาสาป้องกันภัยน้ำท่วมทุกตำบลพัฒนาวิสาหกิจชุมชนให้อยู่ได้ด้วยตนเอง ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ผลักดันการแปรรปสินค้าเกษตร ของสุโขทัย เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ตลอดจนสร้างดลาดกลาง สินค้าเกษดร ค้าปลีก-ส่ง เกษตรกรขายเอง
ส่งเสริมขนส่งสาธารณะ ทำโครงการนำร่อง ส่งเสริมอุดหนุนระบบบนส่งสาธารณะที่มีอยู่ ให้เพิ่มจำนวนเที่ยวเท่ากับความต้องการของประชาชน, พัฒนาสุโขทัยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเชื่อมโยงสนับสนุน ฟื้นฟูประเพณีพื้นถิ่น ส่งเสริมและสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวในชุมชน ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ
และกองป้องกันบรรเทาสาธารณภัย หน่วยกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว ถึงทันที เมื่อมีภัย ป้องกัน บรรเทา เยียวยา หลังดึงคะแนนจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ มาร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลง
ส่วนคนสุดท้ายคือนายโด่ง เกิดที่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ปัจจุบันประกอบอาชีพทนายความ และเป็นเจ้าของกิจการร้านข้าวเปิ๊บ (ต้นตำรับ) ยายเครื่อง ประกาศตัวว่าไม่ใช่ข้าราชการ แต่มีจิตอันเป็นสาธารณะอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสังคม
ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต หากได้รับเลือกเข้าทำงาน จะร่วมมือกับคนสุโขทัยทุกภาคส่วน ร่วมกันบริหารงบประมาณกว่า 700 ล้านบาท/ต่อปี เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับคนสุโขทัย จัดสรรงบประมาณ ด้วยความเป็นธรรม ตามหลักธรรมาภิบาลโดยใช้ เขตอำเภอเป็นที่ตั้ง เพื่อกระจายงบประมาณให้ทั่วถึงส่งเสริมปรับปรุง ซ่อมสร้างพัฒนา แหล่งท่องเที่ยวอันเป็นหัวใจหลักสร้างรายได้ของคนสุโขทัย
ส่งเสริมสนับสนุน แปรรูปสินค้าทางการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่า จัดหาแหล่งกระจายสินค้า ให้พี่น้องเกษตรกร ร่วมมือกับ ภาคประชาชน หอการค้าจังหวัดองค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อบูรณาการร่วมกันในการพัฒนาจังหวัดสุโขทัย
สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.สโขทัย จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 พ.ย. 2567 ชาวจังหวัดสุโขทัยจะเป็นผู้ให้คำตอบว่าใครจะได้เป็นนายก อบจ.คนใหม่
รายงาน:ทีมศูนย์ข่าวภาคเหนือ